“จ่านิว” เจ็บหนักยังสื่อสารไม่ได้ แม่หวังโชคดีกล้องวงจรปิดใช้ได้

จากกรณีที่ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง อายุ 27 ปี ถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัสอีกครั้งในวันนี้เมื่อเวลา 11.00 น. โดยผู้ก่อเหตุเป็นชาย 4 คน สวมหมวกกันน็อคปิดใบหน้า นั่งและซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไม่ติดป้ายทะเบียน 2 คัน มาจอดปากซอยพระยาสุเรนทร์ 2 และใช้อาวุธไม้เบสบอลรุมฟาดนายสิรวิชญ์ จนเลือดไหลอาบบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่พลเมืองดีจะนำตัวส่งโรงพยาบาล

ต่อมานางพัฒน์นรี ชาญกิจ มารดานายสิรวิชญ์ ได้เข้าเยี่ยมอาการก่อนให้สัมภาษณ์ว่า อาการของนิวรู้สึกตัว แต่โต้ตอบกลับมาช้าๆ ลืมตามองหน้าแม่ตลอดแต่ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจยังพูดคุยไม่ได้ อาการบาดเจ็บ จมูกหัก เบ้าตาแตก มีเลือดคั่งในตาข้างขวา ศีรษะแตก

ตอนเกิดเหตุนิวออกจากบ้านกำลังจะเดินทางเป็นปกติ สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามีเรื่องเดียวจากการที่นิวเป็นนักกิจกรรมไม่มีเรื่องอื่น

เมื่อถามว่าเคยเตือนเรื่องการเคลื่อนไหวหรือไม่ นางพัฒน์นรี กล่าวว่า การหยุดแล้วจะปลอดภัยคงไม่ใช่ เมื่อคนต้องการจะฆ่าต่อให้หยุดทำก็จะถูกฆ่า แม่ไม่ได้สนับสนุนให้นิวทำ แต่สิ่งที่ทำไม่ได้ผิดกฎหมายหรือเบียดเบียนใคร ทำในสิทธิของประชาชนคนหนึ่ง การกระทำแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับใคร ไม่ว่าจะเป็นนิวหรือประชาชนที่เดินริมถนนทุกคน คนทำใจกล้ามาก แล้วอย่างนี้ประชาชนจะหาความปลอดภัยไม่ได้เลย

นางพัฒน์นรี กล่าวต่อว่า ลูกชายเคยบอกก่อนหน้านี้ว่ามีคนติดตามอยู่ สงสัยจะโดนอีกหรือเปล่า แม่ก็คิดว่าอาจจะเป็นตำรวจสันติบาลที่ติดตามแต่กลายเป็นคนที่มาทำร้าย ดูจากวิธีการทำน่าจะเป็นกลุ่มเดิมๆ ขอเป็นครั้งที่หนักสุดและเป็นครั้งสุดท้าย ทุกครั้งที่นิวถูกทำร้ายไม่มีเบาะแสในการตามจับคนร้าย ครั้งก่อนที่รัชดาภิเษกกล้องวงจรปิดก็เห็นแต่ใบไม้ รอบนี้เป็นการดักทำร้ายริมถนน ขอให้โชคเข้าข้างเราบ้างในการมีหลักฐานถ้ามีภาพจากกล้องวงจรปิดถือว่าโชคดี

ขณะที่ พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ลงพื้นที่ปากซอยรามอินทรา 109 เพื่อตรวจที่เกิดเหตุจุดที่นายสิรวิชญ์ถูกทำร้าย โดยระบุว่า พยานที่ขายของตรงจุดเกิดเหตุให้ข้อมูลว่า เห็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน แต่ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดประกอบว่าใช่คันเดียวกับที่มาก่อเหตุหรือไม่ เบื้องต้นพยานยังให้ข้อมูลไม่ตรงกันว่าคนร้ายมี 4 คน หรือ 5-6 คน พยานบอกว่าคนร้ายสวมหมวกกันน็อค 3 คนมีไม้เป็นอาวุธ อีกคนใช้อาวุธอื่น ขณะที่สายสืบแจ้งว่ามีกล้องอยู่หลายตัวสามารถนำมาเทียบกับข้อมูลจากพยานได้ น่าจะใช้เวลาตรวจสอบไม่นาน