สตม. บุกค้นคฤหาสน์นายทุนชาวจีน พบเบาะแสสวมบัตรประชาชนไทย ขยายผลจากคดีปลอมรถคล้ายรถทูต

ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นำกำลังบุกค้นคฤหาสน์นายทุนชาวจีน ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบเบาะแสสวมบัตรประชาชนไทย หลังขยายผลจากคดีปลอมรถคล้ายรถทูต 

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (รองผบช.สตม.) นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบคฤหาสน์หลังหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ใน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ของนายเซา เซียนโป อายุ 33 ปี นายทุนจีนรายใหญ่ ในวันนี้(10 พ.ย. 65)   โดยเป็นการขยายผลปิดล้อมตรวจค้นภายในอาคารบีบีดี ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ซึ่งนายเซา เซียนโป เป็นผู้เช่าและเป็นเจ้าของรถหรูที่มีการปลอมแปลงลักษณะเหมือนรถคณะทูต มีรถนำขบวนและรถติดไซเรน ซึ่งตรวจพบว่าเป็นของปลอม และยังพบเครื่องแบบทหารและตำรวจในอาคารดังกล่าว

ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (9 พ.ย. 65) มีการขออำนาจศาลธัญบุรีออกหมายค้นแต่ไม่ได้รับการอนุมัติหมายศาล จึงส่งตำรวจติดตามความเคลื่อนไหวบริเวณรอบพื้นที่บ้าน พบมีรถต้องสงสัยออกจากบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ตามไปขอตรวจค้นพบว่า มีการขนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนหลายรายการ ซึ่งเป็นสินค้าหนีภาษีผิดกฎหมาย จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย โดย 1 ในนั้นเป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติ

ส่วนผลการเข้าตรวจค้นบ้านวันนี้ ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ตำรวจคาดว่า มีช่องรับภายในบ้านที่ขนของออกไปก่อนหน้านี้ อย่าไรก็ตาม ตำรวจจะขยายผลการสอบสวนสืบสวนเกี่ยวกับการครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้าน เนื้อที่บ้านมีขนาดใหญ่ มีอาคารขนาดใหญ่ภายในที่ดิน 4 หลัง และยังพบรถไฟฟ้าจำลองตั้งอยู่ภายในบ้านด้วย

ทั้งนี้ นายเซา เซียนโป ถูกตั้งข้อหา แจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จในการออกเอกสารทางราชการหรือบัตรประชาชน ซึ่งมีหมายจับอยู่ที่อยู่ที่ อ.ปานาเระ จ.นราธิวาส นอกจากนี้ ยังพบว่า นายเซา เซียนโป พกพาสปอร์ต 2 สัญชาติ คือวานูอาตูและจีน โดยถือว่าผิดปกติ ซึ่งก็อยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า มีพาสปอร์ตใดปลอมแปลงหรือไม่

ส่วนผู้ต้องหา 2 ราย ที่จับระหว่างการขนย้ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผิดกฎหมาย คือ นายสามารถ ทิพวรรณ และนายอานำ อารีย์ ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีตามพ.ร.บ. สรรพสามิต