ภาครัฐมีมติแบน 3 สารเคมี ยันโหวตต้านในวงกรรมการวัตถุอันตราย หวังมีผลทันที 1 ธ.ค.

วันที่ 7 ต.ค.ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาความเห็นของส่วนรัฐ ผู้นำเข้า เกษตรกร และผู้บริโภค (4 ฝ่าย) ต่อการยกเลิก สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด คือ คลอร์ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเซต อย่างไรก็ตาม สมาคมอารักขาพืช ซึงสนับสนุนการใช้สารเคมี ได้มีหนังสือแจ้งที่ประชุมว่าติดภารกิจต่างประเทศและไม่ส่งผู้แทนเข้าร่วม

น.ส.มนัญญา กล่าวว่าที่ประชุมมติ 9 ต่อ 0 ให้แบนสาร 3 ชนิด โดยจะเสนอให้คณะกรรมการวัตถุอันตราย พิจารณาให้สารทั้ง 3 ชนิดซึ่งอยู่ในบัญชีประเภทที่ 3 ไปเป็นบัญชีประเภทที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.62 จะเป็นผลให้ห้ามครอบครอง ห้ามจำหน่าย ห้ามนำเข้า ห้ามผลิต โดยหลังจากนี้จะนำมติให้กรรมการทุกคนลงนามรับผลประชุม เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรี ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นนำเสนอต่อคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งเดิมมีกำหนดประชุมวันที่ 27 ต.ค. แต่เมื่อคณะทำงาน 4 ฝ่ายมีข้อยุติในวันนี้ คาดว่าคณะกรรมการวัตถุอันตราย อาจเลื่อนการประชุมชี้ขาดขึ้นมาได้เร็วจากกำหนดเดิม

“ในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย จะมีการพิจารณาลงมติไม่ว่าจะเปิดเผยหรือโดยลับก็ตาม แต่ในส่วนของผู้แทนกระทรวงเกษตร กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมเปิดเผยชื่อแสดงตัวต่อสาธารณะ เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะไปละเมิดการลงมติไม่ได้เป็นประเด็น ทั้งนี้กรมวิชาการเกษตร มีรายละเอียดครบสมบูรณ์ในเรื่องสารทดแทน  วิธีการทำเกษตรทดแทน ซึ่งต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยยังมีสารเคมีอีกจำนวน หลายชนิดที่ยังใช้กันอยู่ทั่วไป เพียงแต่วันนี้เราพบว่า 3 สารนี้เป็นพิษร้ายแรงอันตรายต่อคนและสิ่งแวดล้อม จึงยกเลิกการใช้ทันที และหากในอนาคตพบว่าสารเคมีตัวอื่นที่มีอยู่ในท้องตลาดหลายยี่ห้อ มีความเป็นพิษสูงจะเสนอยกเลิกตามลำดับไป ซึ่งสารทดแทนหรือวิธีการทดแทน มีผลกำจัดศัตรูพืช เพียงแต่ไม่รวดเร็วทันใจที่ราดหญ้า ฆ่าแมลงแล้วตายทันทีเหมือน 3 สารนี้ แต่สารตัวอื่นอาจจะใช้เวลาเพิ่มสักขึ้นเล็กน้อยกว่าหญ้าจะตาย อาจช้าไป 3-5 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นอันตรายไม่มีความเป็นพิษสูงเท่า 3 ตัวนี้ ทั้งนี้เกษตรกรก็รู้วิธีแบบดั้งเดิมทำอย่างไรและ รู้ว่ามีสารอะไรให้ใช้แทน อยู่แล้ว ถ้าไม่มี พาราควอต ไกลโฟเซส คลอร์ไพริฟอส เพราะฉะนั้นเรื่องต้นทุนจึงไม่เป็นปัญหา” น.ส.มนัญญา กล่าว

รมช.เกษตร กล่าวยืนยันว่า ไม่มีนายทุนรายใหญ่ที่จะรอนำเข้าสารทดแทนตัวใหม่เข้ามาในประเทศไทย ตามที่มีการกล่าวหาพรรคภูมิใจไทยเตรียมเปิดทางให้นายทุนพรรคนำสารเข้ามา ไม่มีทั้งสิ้นและการขออนุญาตนำเข้าไม่ได้ทำได้ในทันที เพราะต้องมีระยะการพิสูจน์พิษวิทยาและการขออนุญาตทำตามกฎหมายของ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย

น.ส.มนัญญา กล่าวด้วยว่า มติครั้งนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย ส่วนอธิบดีและคณะกรรมการไม่ต้องกลัวว่าต้องขึ้นศาลเพราะถ้าต้องขึ้นตนเองจะไปด้วยเพราะเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง