รู้จัก ‘เอิง’ คณาพจน์ โจมฤทธิ์ เพื่อนสนิท ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร ที่ติดตาม ‘เศรษฐา’ ไปสหรัฐฯ

จากกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (อดีตกกต.) เปิดรายชื่อบุคคลที่ร่วมเดินทางไปนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA 78) ซึ่งเป็นภารกิจต่างประเทศครั้งแรก หลังจากนายเศรษฐา รับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี

ปรากฏ 1 ในรายชื่อคณะร่วมทีมเดินทางของนายกฯ ‘เศรษฐา’ มี คณาพจน์ โจมฤทธิ์ ปัจจุบัน ‘คณาพจน์’ ไม่ใช่ข้าราชการ หรือข้าราชการการเมือง แต่ที่รู้จักในวงกว้าง คือเพื่อนสนิทของ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย สำนักข่าว TODAY รวบรวมประวัติโดยสังเขปเพื่อทำความรู้จักให้มากขึ้น

(ภาพจาก พรรคเพื่อไทย)

คณาพจน์ โจมฤทธิ์ ชื่อเล่นว่า เอิง ผู้คนมักเรียกว่า ด๊อกเตอร์เอิง ตามดีกรีการศึกษาสูงสุด ระดับปริญญาเอก จากประเทศอังกฤษ ‘ดร.เอิง’  เป็นเพื่อนกับ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตั้งแเต่เรียนคณะรัฐศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังเรียนจบ เมื่อ ‘แพทองธาร’ ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ‘คณาพจน์’ ก็ไปเรียนต่อเช่นเดียวกัน

ไล่เรียงประวัติการศึกษาของ ‘คณาพจน์’ เรียนจบปริญญาตรี จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 1 และ ปริญญาตรี จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท กฎหมายระหว่างประเทศ และปริญญาโท การต่างประเทศและการทูต จาก Soas University of London และปริญญาเอก นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (กฎหมายระหว่างประเทศ) จาก Soas University of London

ความจริง ‘คณาพจน์’ ไม่ใช่หน้าใหม่ทางการเมือง โดยก่อนเกิดการเลือกตั้ง 2562 ไม่นานนัก ‘คณาพจน์’ ได้มาทำงานเป็นหน้าห้องของ ภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งขณะนั้น ‘ภูมิธรรม’ มีตำแหน่งเป็น เลขาธิการพรรคเพื่อไทย

จากนั้น เมื่อตั้งพรรคไทยรักษาชาติ ‘คณาพจน์’ ได้เข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรค ในตำแหน่ง รองเลขาธิการ พรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งหลังจากที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ และเขาจึงถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองด้วย

(ภาพจาก พรรคเพื่อไทย)

ในเลือกตั้งปี 2566 ‘คณาพจน์’ มีบทบาทในพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการทีมคิดเพื่อไทยและโครงการ The Change Maker รวมทั้งมักลงพื้นที่ช่วย ‘แพทองธาร’ หาเสียงเสมอ

“สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีส่วนร่วมทางการเมือง เลยคิดว่าพรรคเพื่อไทยเอง ถึงจุดแล้วที่จะต้อง disrupt ตัวเอง” คณาพจน์ โจมฤทธิ์ กล่าวตอนหนึ่ง ระหว่างการอธิบายโครงการ The Change Maker

และเมื่อนายเศรษฐา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ‘คณาพจน์’ จะปรากฏตัวข้างกายเสมอทั้งในฐานะผู้ติดตามและผู้ช่วยส่วนตัว

(ภาพจาก พรรคเพื่อไทย)