Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับวันดีเดย์ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่ทำเอาหลายฝ่ายลุ้นระทึกสุดใจว่าจะทันหรือไม่ ท่ามกลางความอลหม่านของการจัดสรรวัคซีนที่ดูเหมือนจะมีปัญหารายชั่วโมง ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าทันแน่นอน  นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ในรายการ WorkpointTODAY ถึงแผนการ ‘รีสตาร์ทท่องเที่ยวไทย’ ในวันที่ฉีดวัคซีนไม่ถึง 10%

Q: ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ พร้อมแค่ไหน

จากนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และท่านนายกฯ ว่าไทยควรเปิดรับนักท่องเที่ยว เราจึงมีความคิดว่าน่าจะเอาเกาะภูเก็ตทั้งเกาะมาทำเป็นแซนด์บ็อกซ์และฉีดวัคซีนประชากรในภูเก็ตให้ได้ 70% ส่วน 30% ที่เหลือคือเยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปี ซึ่งยังไม่มีวัคซีนที่เหมาะสม แต่หากมี ทางรัฐบาลไทยก็จะนำวัคซีนนั้นไปฉีดเพิ่มเติม

ตลอดระยะเวลา 2 ถึง 3 เดือนที่เราตั้งไทม์ไลน์ไว้ล่วงหน้า ทาง ศบค. ได้อนุมัติวัคซีนให้ภูเก็ตตอนนี้ประมาณ 4 แสนโดสสำหรับซิโนแวค และในวันที่ 16 มิ.ย. ก็จะมีแอสตร้าเซนเนก้าเข้าไปประมาณ 150,000 ถึง 160,000 โดส ซึ่งจะครอบคลุมประชากร 70% จากการประชุม ศบศ. เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. มีการลงมติยืนยันและเดินหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ตามไทม์ไลน์ที่ตั้งไว้

Q: การขยายการกักตัวจาก 7 วันเป็น 14 วันจะส่งผลอย่างไร

สาเหตุเกิดจากวันนี้ไทยมีการกระเพื่อมค่อนข้างรุนแรง ในหลาย ๆ ประเทศตอนนี้ก็มีการกระเพื่อมขึ้นมาใหม่ในระลอกสามหรือสี่ ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงคิดว่า ในเบื้องต้น 7 วันยังไม่ปลอดภัยสำหรับประชากรและแรงงานแฝงในภูเก็ต จึงขอทดลองเป็น 14 วันประมาณ 1 ถึง 2 เดือน หากเดือนกรกฎาคมมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วไม่เกิดการกระเพื่อมของการติดเชื้อโควิด-19 ของชาวต่างชาติที่เข้ามาในภูเก็ต ถึงเวลานั้น ผมคงต้องนำเรื่องเข้า ศบค. เพื่อขอลดหย่อนเหลือ 7 วัน แต่ที่สำคัญ จะ 7 วันหรือ 14 วัน คนที่เข้ามาในจังหวัดภูเก็ตไม่ต้องกักตัว สามารถเดินทางได้ทั้งเกาะ

Q: แผนเดือนต.ค.ที่ตั้งเป้าจะมีแหล่งท่องเที่ยวนำร่องไม่กักตัว 10 จังหวัดจะยังคงเดิมไหม

แผนเราคงจะต้องเดินไปตามนั้น ขณะนี้ทางรัฐบาลไทย โดยทางผู้ว่าฯ กทม.พยายามจะขอแบ่งวัคซีนจากสาธารณสุขเพื่อฉีดให้คนกทม.ให้เสร็จภายในสิ้นเดือนก.ค. หมายความว่า 70% ของคนกทม.จะต้องได้รับวัคซีน

ถ้าดูจากสถิติของประเทศต่างๆ เช่น อเมริกา หรือ อังกฤษ หลังจากได้รับวัคซีนในระดับหนึ่งและมีภูมิคุ้มกันหมู่ การติดเชื้อโควิดก็จะลดลงอย่างเป็นรูปธรรม อย่างอังกฤษจากติดเชื้อวันละ 2 ถึง 3 หมื่น ตอนนี้ก็เหลือประมาณวันละพันหรือหลักร้อย ซึ่งพอจะอนุมานได้ว่า ถ้ากทม.ฉีดได้ 70% ของประชากร ก็มั่นใจได้ว่าในวันที่ 1 ต.ค. ใน 10 จังหวัดที่ตั้งไว้น่าจะเดินหน้าได้ ซึ่งก่อนที่จะถึงเดือนต.ค. ใน 10 จังหวัดนี้ควรจะได้รับวัคซีน 70% ของประชากรในจังหวัดนั้นๆ

Q: งบประมาณ 22,400 ล้านบาทนำไปใช้จ่ายส่วนไหนบ้างและคุ้มค่าหรือไม่

เราของบประมาณมาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ช่วงโควิดระลอกแรก เราได้มา 22,400 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น 3 โครงการ

  1. โครงการกำลังใจ 2,400 ล้านบาท คือการให้กำลังใจหลังจากการแพร่ระบาดระลอกแรกจบเรียบร้อย ทางกระทรวงฯ จึงนำเงินให้ชาวอสม. 1.2 ล้านคนเพื่อไปผ่อนคลาย เดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งโครงการนี้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ให้ไม่ถึง 1.2 ล้านคนเพราะอสม.บางท่านอายุมาก ไม่พร้อมที่จะเดินทาง เงินส่วนที่เหลือจึงนำส่งคืนกระทรวงการคลัง
  2. โครงการเราเที่ยวด้วยกัน 15,000 ล้านบาท ประกอบด้วยการรับผิดชอบค่าที่พัก 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท รวมเฟส 1 และ 2 เป็นจำนวน 6 ล้านรูมไนท์ ปิดโครงการเรียบร้อย ขณะนี้เหลือเงินบางส่วน ซึ่งจะนำไปเปิดโครงการที่ 3 น่าจะได้ 2 ล้านรูมไนท์ คาดว่าจะเปิดให้จองหลังการระบาดระลอกที่ 3
  3. โครงการทัวร์เที่ยวไทย ตอนแรกจะเป็นเที่ยวไทยวัยเก๋า ให้คนไทยที่อายุ 55 ปีขึ้นไป แต่ผู้ที่อายุเกิน 55 ปี หากเดินทางมักจะมีผู้ดูแล จึงเปลี่ยนเป็นทัวร์เที่ยวไทย วงเงิน 5 พันล้านบาท ให้บุคคลที่อายุเกิน 18 ปี ในเงื่อนไขว่า 1. จัดเป็นกรุ๊ปทัวร์ 2. ต้องมีมัคคุเทศก์ 3. เที่ยวในวันธรรมดา รัฐบาลจะรับผิดชอบสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาทต่อ 1 ท่าน
Q: เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 จะยังมีหรือไม่

ยังมีอยู่ น่าจะประกาศจองสิทธิ์ได้ภายในเดือนส.ค. ให้การระบาดของโควิดในไทยได้บรรเทาลง

ขอแจ้งข่าวดีให้ทราบว่า วันนี้พื้นที่สีเขียวในไทยมีถึง 24 จังหวัด น่าจะสบายใจได้ว่ากว่าจะถึงเดือนก.ค. คงจะมีพื้นที่สีเขียวเกินครึ่งของประเทศ ซึ่งสะท้อนภาพว่า เราน่าจะนำโครงการทั้งสองมาประกาศเพื่อให้คนมาจองสิทธิ์เดินทางท่องเที่ยวได้ รวมถึงผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 โดสหรือแอสตร้าเซนเนก้า 1 โดสที่ฉีดแล้วอย่างน้อย 14 วันก็สามารถเดินทางไปภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้

“วันนี้พื้นที่สีเขียวในไทยมีถึง 24 จังหวัด น่าจะสบายใจได้ว่ากว่าจะถึงเดือนก.ค. คงจะมีพื้นที่สีเขียวเกินครึ่งของประเทศ ซึ่งสะท้อนภาพว่า เราน่าจะนำโครงการเราเที่ยวด้วยกันและทัวร์เที่ยวไทยมาประกาศเพื่อให้คนมาจองสิทธิ์เดินทางท่องเที่ยวได้”

Q: โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 เพิ่ม 2 ล้านสิทธิ์และทัวร์เที่ยวไทยอีก 1 ล้านสิทธิ์

“ขอยืนยันเพียง 2 ล้านรูมไนท์สำหรับเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย 1 ล้านคน ส่วนโครงการในอนาคตน่าจะทราบในเดือนก.ค. หลังมีพระราชกำหนดแล้ว”

ทั้งสองเป็นโครงการในอนาคต ซึ่งผมไม่กล้ายืนยันเพราะโครงการยังไม่ได้ผ่านที่ประชุม เป็นเพียงการคาดการณ์ เพราะฉะนั้นผมจะพูดถึงโครงการที่เรามีเงินอยู่แล้ว โครงการที่กล่าวถึงเป็นโครงการของวงเงินกู้ที่กำลังประชุมพระราชกำหนดอยู่ขณะนี้ จึงขอยืนยันเพียง 2 ล้านรูมไนท์สำหรับเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย 1 ล้านสิทธิ์ ส่วนโครงการในอนาคตน่าจะทราบในเดือนก.ค. หลังมีพระราชกำหนดแล้ว

ส่วนที่ต้องมีการจัดทัวร์และมีมัคคุเทศก์เพราะเราต้องการให้องค์กร 10 องค์กรที่อยู่ในหมวดการท่องเที่ยวขยับไปพร้อม ๆ กัน ทั้งมัคคุเทศก์และผู้ให้บริการรถทัวร์

Q: งบฯ 65 กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ถูกปรับลด 15% จะส่งผลกระทบอย่างไร

“เราต้องแข่งขันกับทุกประเทศ เพราะปัจจุบัน การท่องเที่ยวเป็นรายได้หลัก…ทุกประเทศทุกรัฐบาลจึงต้องพยายามนำเงินลงมาอุดหนุนเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายและท่องเที่ยวภายในประเทศ”

ขอยกตัวอย่างททท.เพียงอย่างเดียว ซึ่งททท.ถูกตัดงบประมาณไป 40.46% ประมาณ 2 พันล้านบาท ในปี 64 เรามีงบประมาณ 5 พันล้าน แต่พอปี 65 ถูกตัดไปประมาณ 40% เหลือ 2 ถึง 3 พันล้าน คงต้องขอแปรญัตติงบประมาณในวาระ 2 และ 3 ว่าหากมีการตัดงบของกระทรวงอื่น ขอมาชดให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้หรือไม่ แต่โดยภาพรวม กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ถูกปรับลดไปประมาณ 29%

Q: งบน้อยลงส่งผลกระทบต่อการออกนโยบายใหม่ ๆ อย่างไร โดยเฉพาะช่วงหลังโควิด

แน่นอนต้องมีปัญหาเพราะเราไม่มีงบประมาณที่จะจัดอีเว้นท์ หรือประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศ แต่ตรงนี้ไม่มีปัญหา เพราะท่านนายกฯ รับปากแล้วว่า ถ้างบประมาณถูกตัดจริงและไม่สามารถนำเงินสะสมของททท.มาใช้ได้ ทางท่านนายกฯ จะนำงบกลางมาชดเชยให้ เพราะหากในปี 65 การท่องเที่ยวเราเริ่มฟื้นตัวและการแพร่ระบาดโควิดเบาบางลง เราต้องแข่งขันกับทุกประเทศ

เพราะปัจจุบัน การท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของทุกประเทศ เนื่องจากการระบาดโควิดในปี 63 จากที่มีการท่องเที่ยวของคนทั้งโลกประมาณ 1,460 ล้านคน ปี 63 ลดลงเหลือประมาณ 380 ล้านคน ลดไปถึง 80% ทุกประเทศทุกรัฐบาลจึงต้องพยายามนำเงินลงมาอุดหนุนเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายและท่องเที่ยวภายในประเทศ

Q: หากไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ตามแผน 100 ล้านโดส มีแผนรองรับอย่างไร

มีความมั่นใจในความสามารถของท่านนายกฯ และกระทรวงสาธารณสุข ว่ามีความสามารถที่จะหาวัคซีนมาได้ เพราะเท่าที่เห็น ตอนนี้เรามีวัคซีนในมือประมาณ 78 ถึง 79 ล้านโดส คงจะหาซื้ออีก 20 ล้านโดส ไม่เกิน 25 ล้านโดสก็จะครบ

แต่ถ้าสมมติว่าเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางและไม่สามารถหาวัคซีนมาได้ อย่างน้อยที่สุด ใน 10 จังหวัดที่ผมกล่าวไป ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาใช้จ่ายถึง 75% ของวงเงินท่องเที่ยวในประเทศไทยปี 2562 อย่างน้อย 10 จังหวัดนี้เราสามารถรับนักท่องเที่ยวไปก่อนได้

Q: ฝากถึงประชาชนที่อยู่ในภาคส่วนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่ม 10 จังหวัด ต้องเตรียมพร้อมอย่างไร

“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องดูแลเรื่องความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม ความเสมอภาคโดยไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน วันนี้ภูเก็ตเดินไปถึงจุดนั้นแล้ว…และทุกอย่างในอีก 9 จังหวัดจะต้องอยู่ในมาตรฐานเดียวกับภูเก็ต”

สำหรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ วันนี้ภูเก็ตมีการพัฒนา ดูแล ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพราะคุณจะรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 ก.ค. คุณได้ทำอะไรกับสิ่งเก่า ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวเห็นมามากแล้วหรือยัง แน่นอนเราต้องปรับโฉมภูเก็ตและการบริการการดูแลนักท่องเที่ยว ที่สำคัญที่สุด เราต้องดูแลเรื่องความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม ความเสมอภาคโดยไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน วันนี้ภูเก็ตเดินไปถึงจุดนั้นแล้ว

ส่วนอีก 9 จังหวัด ผมได้มอบหมายให้กรมการท่องเที่ยวอบรมสัมมนาผ่านสื่อออนไลน์สำหรับมัคคุเทศก์ในชุมชนต่าง ๆ โดยเน้นการท่องเที่ยวในชุมชนเพื่อเดินตามนโยบายชาติ 20 ปีของท่านนายกฯ ในการกระจายรายได้สู่ชุมชนให้ได้มากที่สุด ทางกรมการท่องเที่ยวได้เตรียมการและกำลังดำเนินการอยู่ ทางอปท.ก็เป็นอีกส่วนงานหนึ่งที่จะลงไปดูแลเรื่องนี้ ทุกอย่างในอีก 9 จังหวัดจะต้องอยู่ในมาตรฐานเดียวกับภูเก็ต

เรียบเรียงโดย : ณัฐริกา สุขอุดม

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า