Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี เตรียมเจียดงบ 63 ช่วยพื้นที่ภาคอีสาน

ที่วัดกลางศรีไตรภูมิ (ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย) อ.เมือง จ.ยโสธร วันที่ 9 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวโดยสรุประหว่างลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย ว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ดีใจที่มาพบประชาชนในวันนี้ สิ่งสำคัญคือนำความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่เป็นห่วงประชาชนผู้ประสบภัยให้ดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน ต้องมีกำลังใจ ต่อสู้ ยิ้มสู้ สิ่งสำคัญคือการช่วยเหลือกันทั้งยามปกติสุขและยามประสบปัญหาเพื่อความเข้มแข็งของชุมชน  และช่วยเหลือกันรักษาสิ่งแวดล้อม ใช้สารเคมีน้อยลง ทำเกษตรอินทรีย์และปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อเพิ่มช่องทางเมื่อยามประสบปัญหาการเพาะปลูก

วันนี้มาตรวจและมาดูว่าที่รายงานไปจริงหรือเปล่าจากการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ดูก็เห็นพื้นที่ถูกน้ำท่วมวงกว้าง ที่นี่ 9 อำเภอทั่วทั้งหมด ซึ่งตอนสำรวจเยียวยาก็ต้องซื่อสัตย์กันด้วย พร้อมกล่าวว่า ตนได้เดินทางมาภาคอีสานหลายครั้งแล้วตลอด 5 ปีในรัฐบาลที่ผ่านมา เคยอนุมัติโครงการพัฒนาภาคอีสานระหว่างการประชุมนอกสถานที่ แต่ท้ายสุดกลับมาติดตรงคนไม่ยอม ถ้าจำเป็นก็ต้องขอกันหรือหามาตรการเยียวยา เพราะบางทีการทำโครงการต่างๆ ต้องผ่านที่ดินของประชาชนซึ่งไว้หารือกันต่อไป ไม่ได้หมายความว่ายึดที่-ไล่ที่ ต้องหามาตรการรองรับว่าพอใจหรือไม่ เพื่อจะสร้างให้ได้ ส่วนเรื่องเงินพอจะเจียดจ่ายให้ได้จากงบประมาณปี 2562

“เดี๋ยวก็ต้อง defence งบประมาณกันประมาณเดือนกันยายนเพื่อให้ใช้ทันมกราคมปีหน้า เพราะล่าช้าจากเลือกตั้ง ก็ไม่รู้ว่าเห็นว่าจะไปแก้รัฐธรรมนูญอะไรกันอีกแล้ว วุ่นไปหมด ช่างเค้าเถอะ ผมก็ทำงานของผมไป ไม่ให้ทำก็ไม่ทำ มีใครไม่อยากให้ทำต่อไหม ที่พูดทั้งหมดไม่ใช่ให้ผมอยู่ต่อ แต่มีใครจะทำต่อไหมโครงการพวกนี้ อยากไหม ต้องอยากสิ เราทำมาเยอะแล้วนะ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่ง

(ภาพถ่ายทางอากาศ พื้นที่น้ำท่วม จ.ยโสธร)

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางต่อไปไปที่ จ.อุบลราชธานี โดย ศ.นฏมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พื้นที่ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดจากน้ำล้นตลิ่งไหลท่วมเป็นวงกว้างในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งเกิดจากน้ำฝนตกเป็นปริมาณมากเกิน 300 มิลลิเมตร หรือตกนานเป็นวัน นายกฯ สั่งให้เร่งระบายน้ำหรือจูงน้ำไปหาที่กักเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้ง และสั่งการให้หน่วยงานในท้องถิ่นทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน หามาตรการช่วยเหลือทดแทน อาจต้องใช้เป็นแก้มลิง อย่างที่เคยทำในจังหวัดอยุธยา และที่บางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พร้อมเพิ่มการขุดลอกลุ่มน้ำสาขา ทำพนังกันน้ำประตูน้ำเพิ่มอีก

 

ขอบคุณภาพ Thaigov.

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า