โบอิ่ง 740 นำสิ่งของพระราชทานช่วยเหลือแผ่นดินไหวตุรกี-รับ 23 คนไทยกลับ

รัฐบาลเตรียมโบอิ่ง 740 นำสิ่งของพระราชทานช่วยเหลือ ‘แผ่นดินไหวตุรกี’ และรับ 23 คนไทยกลับ ขณะที่ 15 ก.พ. มีกิจกรรมรวมพลให้กำลัง USAR Thailand และ 2 สุนัขกู้ภัย ‘เซียร่า-ซาฮาร่า’ 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศตุรกีว่า รัฐบาลได้ติดตาม ประสานความร่วมมือ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ และกระทรวงมหาดไทยได้จัดทีมช่วยเหลือพร้อมสุนัขกู้ภัยเข้าปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งผลการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยดี ประเทศไทยได้รับคำชื่นชมจากทีมช่วยเหลือของต่างประเทศในการเข้าช่วยเหลือค้นหาผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในขณะนี้ยังคงมีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พระราชทานสิ่งของช่วยเหลืออีกจำนวนมาก โดยเฉพาะเต็นท์ และอุปกรณ์เวชภัณฑ์ต่างๆ โดยจะจัดส่งผ่านเครื่องบินโบอิ้ง 740 ออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ. 66)

ซึ่งเมื่อเดินทางไปส่งมอบสิ่งของพระราชทานให้แก่ประเทศตุรกีเรียบร้อย แล้ว ในเที่ยวบินกลับจะรับผู้ที่อาศัยอยู่ที่ตุรกีกลับประเทศไทย จำนวน 23 คน รวมทั้งนำศพผู้เสียชีวิตกลับมาด้วย

โดยทั้งหมดนี้นับเป็นความภาคภูมิใจที่ไทยได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ และเป็นการฝึกรับสถานการณ์ภัยพิบัติที่สภาพแวดล้อมแตกต่างจากเมืองไทย เช่น สภาพอากาศที่หนาวเย็น  พร้อมชื่นชมกำลังพลทุกคนที่อดทน และแสดงขีดความสามารถในการปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง ซึ่งรวมถึงสุนัขทั้ง 2 ตัว ที่ร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ด้วย โดยทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างสมเกียรติและเป็นที่ภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเรื่องแผ่นดินไหวในตุรกี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองแห่งชาติ (National Urban Search and Rescue: USAR) เข้าร่วมสนับสนุนปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือเหตุการณ์แผ่นดินไหว ณ สาธารณรัฐตุรกี ระหว่างวันที่ 9 – 19 ก.พ. 66 จำนวน 42 ราย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. เข้าร่วมทีมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ จำนวน 10 ราย ได้รายงานภารกิจทุกวัน ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปตุรกียังปลอดภัยดี ถือเป็นการไปช่วยเหลือเพื่อนเรา เป็นโอกาสในการเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วย ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ไป ขอให้เดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย

ส่วนในกรุงเทพฯ มีหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องแผ่นดินไหวของกทม. 2 ส่วนหลัก คือ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) และสำนักการโยธา (สนย.)  โดยความรับผิดชอบของ สปภ. จะดูแลและความพร้อมในการดำเนินการกรณีฉุกเฉิน  และ สนย. จะดูแลเรื่องใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ เพื่อให้เข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหวของประเทศไทย

อาทิ กฎกระทรวง ฉบับที่ 49 พ.ศ.2540 ซึ่งอาคารในพื้นที่กรุงเทพมหานครยังไม่ถูกบังคับใช้ กฎกระทรวงกำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคารและพื้นดินที่รองรับอาคาร ในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ.2550 กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตดัดแปลงอาคาร เพื่อเสริมความมั่นคงแข็งแรงของอาคารให้สามารถต้านแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว พ.ศ.2555 และกฎกระทรวงกำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคาร และพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ.2564  และเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง  ทั้งนี้ อาคารในกรุงเทพมหานครที่เข้าเกณฑ์ต้องออกแบบอาคารต้านแรงแผ่นดินไหว ก่อนปี 2550 มีจำนวน 10,386 อาคาร และอาคารหลังปี 2550 ถึงปัจจุบัน มีจำนวน 3,028 อาคาร

ขณะที่ วันที่ 15 ก.พ. เวลา 10.00 น. จะมีกิจกรรม รวมพลคนรักสุนัข ส่งกำลังใจที่บริเวณลานสนามหญ้าอารีน่า อิมแพค เมืองทองธานี ให้เจ้าหน้าที่ทีม USAR Thailand รวมทั้ง เซียร่า และ ซาฮาร่า 2 สุนัขกู้ภัย ที่กำลังปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศประตุรกี ให้ทั้งหมดปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย และกลับถึงไทยโดยสวัสดิภาพ ซึ่งตามกำหนดการ ทีม USAR Thailand เซียร่า และ ซาฮาร่า จะเดินทางออกจากประเทศตุรกีในวันที่ 18 ก.พ.นี้

ภาพจาก : ทำเนียบรัฐบาล, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, กรุงเทพมหานคร, K9-Thailand

ทำความรู้จัก ‘เซียร่า-ซาฮาร่า’ สุนัขกู้ภัย กับภารกิจช่วย ‘แผ่นดินไหวตุรกี’