Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

รวบรวมความเห็น 4 ส.ว. กรณีโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น จนกลายเป็นประเด็นเดือด เพราะมุ่งเป้าไปที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยที่มาจากตระกูล ‘ชินวัตร’ 

จากโพสต์ทางเฟซบุ๊กของ นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 66 ที่ได้ออกมาระบุชี้ไปว่า 250 ส.ว. จะไม่โหวตเลือก แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ลูกสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี แม้พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส. มากที่สุด แบบแลนด์สไลด์ก็ตาม

“250 ส.ส. หรือ ส.ว. … ใครจะแลนด์สไลด์ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ใครรวมเสียง ส.ส. ได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ คนนั้น พรรคนั้นก็ควรจะเป็นนายกฯ ควรจะเป็นรัฐบาล เชื่อว่า เป็นหลักการที่ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. เห็นว่าควรเป็นเช่นนั้น และ ส.ว.ส่วนใหญ่ก็จะโหวตให้ตามหลักการนั้น”

“ส่วนเรื่องว่า ใครจะเป็นนายกฯ นั่นก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คนที่จะเป็นนั้นต้องมีภาวะความเป็นผู้นำ เป็นที่ยอมรับของคนทั้งสภาทั้งประเทศ เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ของเล่นของใครหรือของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง นายกฯ คือหน้าตาของคนทั้งประเทศ จะไปเที่ยวจับใครยัดมาเป็นเหมือนที่เคยเป็นมาแล้วคงไม่ได้ ถือว่าเป็นการตบหน้าประชาชนคนไทยและสมาชิกรัฐสภาทั้งสภา”

“ผมได้เห็นมาเต็มสองลูกตาได้ยินมาเต็มสองรูหูว่า เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ก็แลนด์สไลด์ไป เพื่อไทยจะเลือกอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ ก็เป็นเรื่องของเพื่อไทย แต่พรรคผมและพวกผมไม่เลือกแน่นอน นั่นก็หมายความว่า ถ้าอุ๊งอิ๊งจะเป็นนายกฯ เพื่อไทยจะต้องรวมเสียงของพรรคพวกตนให้ได้ถึง 376 เสียงและเสียงเหล่านั้นทุกคนต้องยอมรับในตัวอุ๊งอิ๊ง ถ้าไม่ได้ 376 เสียงจริงๆ ทางเดินของอุ๊งอิ๊งที่จะไปสู่ดวงดาวแห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นคงริบหรี่เต็มที”

“ไม่ใช่เป็นการดูถูกดูแคลนอะไรหรอก แต่เป็นเรื่องทางการเมืองที่เป็นจริง ไม่ใช่เป็นเรื่องของการปราศรัยหาเสียง ไม่ใช่เป็นเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่เป็นเรื่องทางการเมืองของคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ เมื่อถึงวันนั้นก็จะรู้เองว่าใครตัวจริงเสียงจริง ไอ้ที่ตะโกนปาวๆนั่นมันของเล่นของหลอกกันทั้งนั้น ไม่เช่นนั้นมันจะไม่มีชื่อส.ตัวใหญ่โผล่ออกมาหรอก ที่เรียกร้องแลนด์สไลด์ แลนด์สไลด์ให้ 250 ส.ส. ปะทะ 250 ส.ว. …ระวัง 250 ส.ว.จะแลนด์สไลด์ตีกลับ…ต้องมานั่งสวดมนต์เจริญจิตภาวนาที่วัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชันนะ”

 

วันที่ 12 ก.พ. 66 นายวันชัย ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่โพสต์ข้างต้นว่า ส่วนตัวแล้วถ้าพรรคใดได้เสียงข้างมากก็พร้อมโหวตให้คนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะเป็น ‘อุ๊งอิ๊ง’ ก็โหวตให้ แต่เท่าที่ฟังเสียงเพื่อน ส.ว. หลายคน ทุกคนบอกว่า ถ้าเป็น ‘อุ๊งอิ๊ง’ ไม่เอา เพราะมองเรื่องวุฒิภาวะความเป็นผู้นำและประสบการณ์ยังไม่มีดูแล้วเป็นยากมาก โดยเฉพาะการเป็นสายตรงของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นลูกนายทักษิณ ที่เป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง หากเอา ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ อาจทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ถึงจะรวมเสียงข้างมากได้ ส.ว. อาจไม่เอา

ถ้ายังดึงดันเอา ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นให้ได้ พรรคเพื่อไทยอาจไม่ได้เป็นรัฐบาลเลย อาจมีบุคคลที่ 3 มาเป็นนายกรัฐมนตรี ชื่อ ‘ส.ตัวใหญ่’ อาจไม่ได้มาตอนนี้ อาจมาตอนก๊อก 2 หากโหวตเลือกนายกฯ กันไม่ได้จริงๆ สิ่งที่ได้ยินมา จึงไม่ใช่เรื่องโคมลอย เพราะไม่ใช่เรื่องพรรคเพื่อไทยฝ่ายเดียว ถ้าจะให้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ ต้องไปรวมเสียงให้ได้ 376 เสียง ถ้าทำไม่ได้ และคนอื่นไม่เอา ‘อุ๊งอิ๊ง’ จะดันต่อไปอย่างไร จึงต้องประนีประนอมถอยไป เอาคนอื่นมาเป็นแทน เอามาเป็นตัวขายได้ แต่ไม่ใช่ตัวจริง

ขณะที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 66 ว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว. คงไม่ได้เน้นเฉพาะน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยคนเดียว แต่จะดูผลคะแนนหลังเลือกตั้งว่า ซีกใดจะตั้งรัฐบาล ถ้าเป็นซีกที่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหาในอนาคต พวกที่ตั้งป้อมด่า ส.ว. เอาแต่วิจารณ์ ส.ว.รุนแรง กลัว ส.ว. ใช้สิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป เราจะไปเลือกได้อย่างไร แต่มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้แลนด์สไลด์เกินครึ่งแน่

ขณะนี้สังคมแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายที่เอาและไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เท่าๆ กัน คะแนนเสียงที่ออกมาจะใกล้เคียงกัน หรือ เหลื่อมกว่ากันเล็กน้อย ส.ว. จึงเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะมี 250 เสียง แลนด์สไลด์ล่วงหน้าไปแล้ว หากพรรคเพื่อไทยได้ไม่เกิน 250 เสียง น.ส.แพทองธารก็ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่ ส.ว. ไม่เคยมองพรรคเพื่อไทย จะได้เกิน 250 เสียง

การตั้งรัฐบาล พรรคการเมืองทั้งพรรคขนาดกลางพรรคเล็ก จะดูแนวโน้มใครจะเป็นรัฐบาลก็ไหลไปรวมกับฝ่ายนั้น ดังนั้นจึงต้องไหลไปรวมอยู่กับขั้วที่ ส.ว. จะโหวตให้ เพราะทุกพรรคก็อยากเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยก็รู้สถานการณ์ดีถึงกลัว ต้องแก้รัฐธรรมนูญตัดอำนาจ ส.ว. ให้ได้

“ขณะนี้เสียง ส.ว. เกิน 90% จะโหวตไปทางเดียวกันหมด โอกาสครั้งหน้าบอกได้เลย ไม่พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตรเท่านั้นที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี” นายเสรี กล่าว

ด้าน นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. กล่าวเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 66 ว่า เรื่องนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว แต่เชื่อว่า ส.ว. ส่วนใหญ่จะเคารพเสียงของประชาชน และทำเพื่อบ้านเมืองเท่านั้น โดย ส.ว. จะดูว่าผู้ที่จะมาทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง ต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ไม่มีเบื้องหลังทุจริต นำพาบ้านเมืองไปสู่ความสงบเรียบร้อย

นายกิตติศักดิ์ ไม่ขอก้าวล่วงกรณีโพสต์ของนายวันชัย และสมาชิกอื่น โดยระบุว่า ให้ไปถามที่เจ้าตัว ส่วนที่มองว่า ส.ว. ไม่เคารพเสียงประชาชนนั้น ยอมรับว่า กังวลหากประชาชนและสื่อมวลชนจะเข้าใจผิดว่า ส.ว. คิดแบบเดียวกันทั้งหมด

สำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะชู น.ส. แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี หากมีเสียงเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นลำดับที่ 1 ส.ว.จะพร้อมโหวตให้หรือไม่นั้น นายกิตติศักดิ์ บอกว่า ต้องขอดูก่อน เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ และได้ ส.ส. เกินครึ่งก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่การรวบรวมเสียงในการเลือกนายกรัฐมนตรี 376 เสียงนั้นต้องขอดูก่อนเช่นกันว่า หากใกล้ๆ น.ส.แพทองธาร สามารถปรับลุค มีผลงาน มีนโยบายที่ดี อาจจะพิจารณาหน้างานอีกครั้ง และถึงแม้จะชนะแลนด์สไลด์ ก็ย้ำว่า ก็ต้องดูอีกครั้งหนึ่ง เพราะประเทศชาติ ไม่ใช่ของเล่น คนที่จะมานำพาประเทศไปสู่สากลให้ได้ ไม่ใช่มาแล้วเล่นขายหม้อข้าวหม้อแกง ถ้าอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรีจริงต้องสร้างผลงาน สร้างความเชื่อถือไม่มีประวัติเกี่ยวกับการทุจริตเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะถูกตั้งข้อครหาไม่เคารพเสียงของประชาชนอีกหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ ระบุว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์จริง ก็ตั้งรัฐบาลไป ส่วนการเลือกนายกรัฐมนตรี ก็เป็นสิทธิ์ของ ส.ว. หากน.ส.แพทองธารมีคุณสมบัติครบ ก็ไม่น่ามีปัญหา แต่ไม่ใช่ว่าเสียงที่ตั้งรัฐบาลไป ก็ไม่ใช่ว่านายกรัฐมนตรีจะต้องเป็น น.ส.แพทองธาร

“อีกสักหน่อยดีไหมคุณอุ๊งอิ๊งเสริมกระดูกทางการเมืองอีกสักหน่อยดีไหม อีกสักสมัยหนึ่งค่อยมาว่ากัน เราเคยมีประสบการณ์แล้วว่านายกฯ ที่หน่อมแน้ม มันสร้างปัญหาให้กับประเทศชาติ เพราะฉะนั้นเราไม่อยากให้ตรงนั้นกลับมาอีกที ในสถานการณ์โลกอย่างนี้ ขอคนที่กระดูกแข็งๆ หน่อย” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ส.ว.จะเลือกแค่ 2 ลุง คือ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ ในการเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งหน้านั้น นายกิตติศักดิ์ ปฏิเสธว่า ไม่จริง เพราะหากสามารถไปรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เชื่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หรือคนอื่นก็สามารถเป็นได้ ขอสื่อมวลชนอย่าชี้ว่า จะต้องเป็น 2 คนเท่านั้น

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช  ส.ว. กล่าวเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 66 ถึงการโพสต์ของส.ว.วันชัยว่า ไม่ใช่ความเห็นของคนทั้งหมด และจะไปห้าม ส.ส.หรือ ส.ว.ไม่ให้แสดงจุดยืนไม่ได้ ส่วนตัวนั้นมองว่า หากจะเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งสุดท้าย จะต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน ซึ่งอันดับแรก ส.ว. จะต้องวางตัวเป็นกลาง ต้องไม่สนับสนุนหรืออิงพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใด

โดย ส.ว.จะพิจารณา เลือกนายกรัฐมนตรี จากเสียง ส.ส. ที่สนับสนุนผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีและตัวบุคคล ซึ่งจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประสิทธิภาพเสถียรภาพในการบริหารงานของรัฐบาลในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่า หากมีเสียง ส.ส.สนับสนุนเกินครึ่งหนึ่ง ตนเชื่อว่า ส.ว.จะสนับสนุน

พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวต่อว่า แต่หากมีเสียงเกินครึ่งแล้ว เราคิดว่า เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี สู้อีกคนไม่ได้ก็ต้องถอยกลับไป เสนอชื่อใหม่ เพราะฉะนั้นการที่พรรคการเมืองรวมตัวกันก็เป็นสิทธิ์ แต่การที่จะเสนอใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องมองในภาพรวมด้วย

ยกตัวอย่างเช่นการเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งแรก คู่เปรียบเทียบแทบจะสู้ไม่ได้ เสียงจึงเทไปที่พล.อ.ประยุทธ์ เกือบทั้งหมด ย้ำสิ่งที่สำคัญของ ส.ว. คือต้องวางตัวเป็นกลาง ใช้ดุลยพินิจในการให้ความเห็น เลือกผู้ที่สมควรในการมาเป็นผู้นำรัฐบาลครั้งต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านที่จะนำ ไปสู่การมีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า ส.ว. จะเลือกแค่ 2 ลุง คือ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตรนั้น พล.อ.เลิศรัตน์ บอกว่า เรื่องการเลือกใครจะต้องอยู่ที่สถานการณ์ ขอฟันธงว่า ไม่มีวันที่พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 คน อาจจะต้องมีคนใดคนหนึ่ง หรือไม่มีเลยทั้ง 2 คนก็ได้ และเสียงของประชาชนที่สนับสนุนพรรคการเมืองจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะตอบโจทย์ เพราะฉะนั้นการจะพูดอะไรขณะนี้ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล

“การจะมาสะท้อนกลับต่อ ส.ว. ทั้งหมดก็ไม่แฟร์ เพราะแต่ละคนมีความคิดที่หลากหลาย อย่าไปคิดว่า สิ่งที่คนหนึ่งพูดไปจะนำไปสู่การดำเนินการทั้งหมด เพราะขนาดนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีบ้าง อยู่ที่ประชาชนจะเลือกใครและอยู่ที่การรวมกลุ่มของพรรคการเมือง จะไปรู้กันวันนั้น แต่ส่วนตัว ขอรับรองว่าการตัดสินใจของตน ถูกใจสื่อมวลชนแน่นอน” พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า