เสร็จแล้ว ‘พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า’ ส.ส.พรรคก้าวไกล ขอบคุณทุกคนที่ร่วมผลักดัน

ปิดฉากสมัยประชุมสภา พร้อมกับร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับเสร็จสมบูรณ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล หวังวาระต่อไปทุกคนโหวตผ่านฉลุย

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสรรพสามิต หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พร้อมด้วย นายคริส โปตระนันทน์ โฆษกกรรมาธิการ แถลงข่าวเนื่องในโอกาสที่ร่างพ.ร.บ.ได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว นับเป็นสามเดือนที่เหนื่อยมาก และเป็นวันที่เหลือเชื่ออย่างยิ่งที่ร่าง พ.ร.บ.ผ่านมาได้ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ก้าวใกล้ความฝันได้อีกก้าวหนึ่ง และผลงานของพ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นผลงานของทุกพรรคการเมืองและสภาแห่งนี้ที่ช่วยผลักดันในชั้นกรรมาธิการให้ร่างกฎหมายออกมามีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นและคิดว่ารอบโจทย์ข้อกังวลในหลายๆ เรื่องของสมาชิกสภาที่ได้อภิปรายไว้ในวาระที่ 1

นายเท่าพิภพ กล่าวขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ช่วยส่งเสียรณรงค์และสนับสนุน ประธานกรรมาธิการ กรรมาธิการทุกท่าน ที่แม้จะมีข้อถกเถียงกันในหลายประเด็นแต่สุดท้ายก็พิสูจน์ให้เห็นกระบวนการกรรมาธิการของสภาคือที่ที่เปิดกว้างให้ได้ถกเถียงแต่สุดท้ายก็หาจุดร่วมกันได้ ในอนาคตตนมั่นใจและไม่ห่วง และมั่นใจมากกว่าวาระแรก โดยพ.ร.บ.จะเข้าพิจารณาในวาระที่ 2 และวาระ 3 ในอนาคต

“ผมเองไม่ได้ห่วง แต่กลับมั่นใจมากขึ้นกว่าตอนวาระที่ 1 เพราะเชื่อว่ากรรมาธิการจากทุกพรรคจะไปอธิบายถึงเนื้อที่ได้พิจารณามาอย่างรอบคอบและเป็นประโยชน์ที่สุดกับประชาชนคนตัวเล็ก ที่พวกเขาจะได้รับโอกาสทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากการปลดล็อคสุราก้าวหน้าครั้งนี้ แต่ก็ยังต้องจับตาดูหากผ่านสภาผู้แทนฯ ไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปวุฒิสภาจะต้องลงมติเห็นชอบต่อไป ซึ่งผมขอวิงวอนให้ประชาชนจับตาว่า จะมีสมาชิกวุฒิสภาหรือผู้ใดจะล้มร่างกฎหมายของประชาชนหรือไม่” เท่าพิภพกล่าวถึงความสำคัญของก้าวต่อไปของกฎหมายฉบับดังกล่าว

ด้านนายคริส โปตระนันทน์ โฆษกกรรมาธิการ กล่าวในส่วนข้อกฎหมายที่ผ่านการแก้ไขว่า ในส่วนของการให้ผู้ผลิตรายย่อยได้เข้าสู่ตลาดได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องกำลังการผลิต แรงม้า กำลังคนและทุนจดทะเบียนทางกรรมาธิการเห็นตรงกันว่าต้องปลดล็อคและเปิดโอกาสให้รายย่อยได้เข้าสู่ตลาด จึงให้คงไว้ เพียงแต่มีการปรับข้อความให้รัดกุมและชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันกรรมาธิการก็เข้าใจถึงความกังวลของสังคมในเรื่องการผลิตที่มิใช่การค้าของประชาชนในครัวเรือนและตามประเพณี ซึ่งร่างกฎหมายนี้ปลดล็อกให้ทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ซึ่งหากไม่มีการกำกับของรัฐเลย ก็อาจจะทำให้รัฐเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี กรรมาธิการจึงเห็นตรงกันว่า การผลิตในครัวเรือนต้องมีการจดแจ้งกับกรมสรรพสามิตในเรื่องของชนิดและปริมาณของสุราที่ผลิต

ในส่วนของกระบวนการของการผ่านกฎหมายนี้ ในขั้นตอนต่อไปร่างกฎหมายและรายงานของกรรมาธิการพร้อมข้อสังเกต จะต้องเข้าสภาผู้แทนราษฎร และผ่านความเห็นชอบในวาระ 2 และวาระ 3 ในสมัยประชุมหน้าในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งกรรมาธิการชุดนี้จะต้องมีหน้าที่ในการตอบปัญหาข้อสงสัยและข้อซักถามต่อไป เราขอขอบคุณประชาชนในส่วนของแรงสนับสนุนของกฎหมายนี้ แต่อย่างไรก็ดี เราต้องขอให้ประชาชนจับตาดูกฎหมายนี้ต่อไปเนื่องจากเป็นร่างที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาล ซึ่งประโยชน์ก้อนนี้จะตกกับประชาชนหรือกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับว่า กฎหมายฉบับนี้จะผ่านหรือไม่ ความสำเร็จในขั้นกรรมาธิการเป็นเพียงก้าวแรกๆ การที่กฎหมายนี้จะผ่านออกมาบังคับใช้ได้ยังต้องผ่านอีกหลายด่าน