Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

‘นิกร’ วอนรัฐบาล-ฝ่ายค้านทำหน้าที่กอบกู้ภาพพจน์สภาครั้งสุดท้าย ลั่น ‘ชทพ.’ ร่วมองค์ประชุม เผยประเพณีปฏิบัติเรียกถก ส.ส.พรรคก่อนเข้าห้อง ด้าน ‘ภราดร-สิริพงศ์’ แจงภูมิใจไทย อาจไม่เป็นองค์ประชุมอภิปราย ม.152 แค่เตือนห่วงฝ่ายค้านพูดเรื่องเดิมๆ

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่สภากำหนดว่าจะให้มีขึ้นใน วันที่ 15 – 16 ก.พ.นี้ ว่า มาตรา 152 บัญญัติว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจํานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จะเข้าชื่อกันเพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ 

นายนิกร กล่าวว่า พรรค ชทพ. ปฏิบัติเป็นประเพณีของพรรคที่มีมาในอดีตตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา คือ การเรียกประชุม ส.ส.ของพรรคในเช้าวันเปิดประชุม เพื่อหารือสรุปประเด็นการเมืองเกี่ยวกับการอภิปรายทั่วไป ซึ่งครั้งนี้คงไม่มีอะไรเป็นพิเศษเพราะ ส.ส.ของพรรคไม่ต้องลงมติใดๆ ต่อการอภิปรายในครั้งนี้ 

เพียงแต่ต้องทำหน้าที่เข้าร่วมประชุมสภาฯกันตามหน้าที่ของ ส.ส. เพื่อรับฟังการซักถามข้อเท็จจริงของสมาชิก และสมาชิกของพรรคที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี 2 คน โดยเฉพาะนายวราวุธ ศิลปอาชา ในฐานะรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้เคยแถลงไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ยินดีที่จะใช้โอกาสนี้ตอบข้อซักถาม และรับฟังข้อเสนอแนะ จากสภาไปดำเนินการต่อไป ในเวลาที่เหลืออยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีตามความรับผิดชอบในหน้าที่ของฝ่ายบริหาร

นายนิกร กล่าวว่า จะเข้าร่วมประชุมสภาตามปกติเหมือนที่เคยทำมา เพราะเห็นว่างานของสภานั้น ไม่ว่าอย่างไรก็มีประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสิ้น ส่วนฝ่ายการเมืองนั้น ในภาพรวมก็เป็นโอกาสที่ดีมากในการแก้ไขภาพพจน์ทางลบของสภา จากการที่สภาล่มซ้ำซากได้บ้างเพราะเวลาก็เหลือเพียงน้อยนิดแล้ว ก็ควรใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อภาพพจน์ของสภาในภาพรวม ที่ต้องพยามกอบกู้คืนมาเท่าที่สามารถจะทำได้ด้วยกัน แต่ถ้ากลับด้านกัน คือ สภาฯล่มลงไปอีก ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดภาพพจน์ของสภาจะยิ่งเสียหายหนักลงไป เกินกว่าที่สมาชิกสภาของเราจะแบกรับความรับผิดชอบไหว

นายนิกร กล่าวว่า ส่วนความเห็นทางการเมืองเกี่ยวกับการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลนั้น ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองที่ผ่านการอภิปรายในสภามานานพอสมควรเห็นว่า น่าจะเสมอกัน คือฝ่ายค้านอาจใช้โอกาสนี้ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เพื่อหวังผลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ฝ่ายค้านก็ได้ประโยชน์ไป แต่ถ้าอภิปรายเพื่อหวังผลเฉพาะในการเลือกตั้งที่จะมาถึงของตัวเอง ก็อาจเกิดผลเป็นลบ เพราะประชาชนย่อมมองออกว่า ไม่จริงใจ 

นายนิกร กล่าวว่า สำหรับฝ่ายรัฐบาลโอกาสนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้อธิบายทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วไป มิใช่กับฝ่ายค้าน และที่จริงแล้วฝ่ายรัฐบาลจะได้เปรียบกว่าเสียด้วยซ้ำ ปัญหาหนักหนากรณีโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย นักท่องเที่ยวกำลังกลับมา ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเริ่มดีขึ้น ประชาชนเริ่มมีความหวัง ถ้าฝ่ายรัฐบาลไม่ใช้โอกาสนี้ชี้แจงกับประชาชนถึงโอกาสวันพรุ่งนี้ของประเทศ และชี้แจงปัญหาคาใจของประชาชนในอดีตเมื่อวานนี้ก็ไม่รู้ว่าจะใช้โอกาสไหน ในโอกาสสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 นี้ ก่อนสภาชุดที่ 26 กำลังจะมาทดแทนในไม่ช้า

‘ภราดร-สิริพงศ์’ แจง ‘ภูมิใจไทย’ อาจไม่เป็นองค์ประชุมอภิปราย ม.152

นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวในรายการ พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” ผ่านช่องทางยูทูบ และเฟซบุ๊ก พรรคภูมิใจไทย ถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 ก.พ. 66 ว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนมาการอภิปรายตามมาตรา 152 เป็นการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ 

ต่างจากการอภิปรายไม่วางใจในมาตรา 151  ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายแบบใด ก็อยากให้ฝ่ายค้านพูดในสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์มากกว่า จะหวังประโยชน์ทางการเมือง ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงเข้าสู่การเลือกตั้ง ก็เข้าใจได้ว่า ต้องมีความพยายามทำเรื่องให้เป็นประเด็นการเมืองทั้งหมด แต่ก็ควรเอาแค่พอประมาณ เอาที่ชาวบ้านมีประโยชน์ด้วย

“สิ่งที่คุณพูดมันจะเป็นประโยชน์ทางการเมืองกับคุณแต่ชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์ เรื่องพวกนี้พูดให้น้อยๆ ไปพูดเรื่องที่ชาวบ้านได้ประโยชน์มากหน่อยน่าจะดีกว่า” นายภราดร กล่าว

นายภราดร กล่าวต่อถึงกระแสข่าวที่ว่าพรรคภูมิใจไทยมจะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการอภิปรายตามมาตรา 152 ซึ่งอาจทำให้สภาล่ม และดำเนินการอภิปรายต่อไม่ได้ว่า ไม่ได้บอกว่า จะไม่เป็นองค์ประชุม แต่เมื่อมีการสอบถามเข้ามา ก็เตือนไปว่า ถ้าอภิปรายในเรื่องที่เป็นประโยชน์ พรรคภูมิใจไทยเป็นองค์ประชุมให้แน่นอน แต่ถ้านำเรื่องเก่าที่พูดไปแล้วซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อจะมาหาเศษหาเลย ฉกฉวยโอกาสทางการเมือง พรรคภูมิใจไทยก็จะไม่ร่วมองค์ประชุม

การอภิปรายตามมาตรา 152 ที่ผ่านมา 2-3 ครั้งเป็นไปในทางอภิปรายไม่ไว้วางใจ พูดเรื่องเดิมๆ ซ้ำกับการอภิปรายไม่ไว้วาง เพียงแต่ไม่มีการลงมติเท่านั้น ซึ่งครั้งนี้ก็เชื่อว่าจะมีการนำเรื่องที่ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้วกลับมาพูดอีก หลายเรื่องมีการลงมติไว้วางใจรัฐมนตรีไปแล้ว แต่ฝ่ายค้านก็ยังไม่พอใจ บางเรื่องมีการนำไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งถือว่าครบตามกระบวนการตรวจสอบแล้ว ก็ไม่ควรนำมาพูดอีก

“เรื่องที่อภิปรายไปแล้ว เรื่องที่ลงมติไปแล้ว ในอดีต ก็ไม่ควรจะเอามาพูดในวาระนี้ ช่วงปลายสมัยอยากจะเห็นรัฐบาลทำอะไร อยากจะให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านอย่างไรมากกว่า ถ้าเอาเรื่องเก่าที่มีการพูดกันมาหลายรอบแล้วมาพูดอีกในคราวนี้ ผมก็เห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ และเราอาจจะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม” นายภราดร กล่าว

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ต้องย้ำว่าการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วาง หรือเวทีซักฟอกที่เป็นเวทีของฝ่ายค้าน แต่มาตรา 152 ควรเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ได้เสนอแนะต่อรัฐบาล ซึ่งส่วนตัวเองกก็มีหลายประเด็นที่อยากจะสอบถาม หรือเสนอแนะกับทางฝ่ายบริหารเช่นกัน

“เวทีอภิปรายมาตรา 152 ถูกสร้างภาพให้เราเข้าใจมาโดยตลอดว่าเป็นเวทีของฝ่ายค้าน ซึ่งผมว่า หลักจริงๆ ต้องให้ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาลได้มีโอกาสนำเสนอด้วย” นายสิริพงศ์ ระบุ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า