‘เฮียฮ้อ’ กลับมาลุยธุรกิจเพลง จ่อปิดดีลพันธมิตร ตปท. ส่งเพลงไทยโกอินเตอร์

หลังลดความสำคัญของธุรกิจเพลงมานานราว 15 ปี ล่าสุด ‘เฮียฮ้อ’ แห่ง RS Group ประกาศคืนสู่สังเวียนนี้อย่างเต็มตัวอีกครั้ง โดยเตรียมปิดดีลยักษ์กับพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อดันเพลงไทยไปสู่ระดับโลก ก่อนไปสู่เป้าหมายสำคัญคือการพาธุรกิจเพลง หรือ RS Music เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีหน้า

‘เฮียฮ้อ’ หรือนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ให้เหตุผลของการลดความสนใจในธุรกิจเพลงตลอด 15 ปีที่ผ่านมาว่าเป็นเพราะอุตสาหกรรมเพลงเปลี่ยน เมื่อก่อนรายได้หลักของธุรกิจนี้มาจากการขายแผ่น แต่เมื่อฉากทัศน์เปลี่ยน รายได้ตรงนี้หายไป RS ก็ไม่ได้ล้มเลิกธุรกิจเพลงแต่ลดสเกลลง

“จนในช่วง 1-2 ปีมานี้ที่ชัดเจนว่ารายได้ในธุรกิจเพลงมาจากออนไลน์ การสตรีมมิ่ง ลูกค้าก็อยากใช้เงินในรูปแบบของกิจกรรม มีเดีย หรือคอนเสิร์ต ทำให้การทำคอนเสิร์ตเราไม่ต้องคิดเรื่องขายตั๋ว ประกอบกับมีพาร์ทเนอร์เข้ามาคุย เราเลยคิดว่ามันถูกที่ถูกเวลา” เฮียฮ้อระบุ

สำหรับการปิดดีลกับพาร์ทเนอร์จากต่างประเทศนั้นคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้ โดยเป็นดีลใหญ่ที่จะทำให้สร้างมูลค่าให้ทั้งกลุ่ม และช่วยให้ RS Music แข็งแรงขึ้น และมีช่องทางที่จะขยายการเติบโตไปต่างประเทศได้ง่ายขึ้น

การลุยธุรกิจเพลงเพื่อที่จะสปินออฟ RS Music เข้าตลาดฯ บนเป้าหมายสำคัญคืออยากให้ธุรกิจเพลงมีมูลค่า และระดมทุนเพื่อนำเงินมาลงทุนในธุรกิจนี้เพิ่ม

โดยนอกจากกำลังจะมีดีลใหม่ สิ่งที่บริษัททำไปแล้วใน RS Music คือการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงใหม่ โดยรวมธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเสียงเพลงทั้งหมดมาไว้ด้วยกัน ได้แก่ 3 ค่ายเพลงหลัก, สถานีเพลง COOLFahrenheit, โชว์บิส, การทำการตลาดออนไลน์และออนกราวนด์ รวมถึง Artist Management

ขณะที่ในปีนี้ก็ยังมีโปรเจ็กต์ RS Newcomers ออดิชั่นศิลปินหน้าใหม่ และในส่วนโปรเจ็กต์ RS Homecoming นั้น มีการเปิดตัวศิลปินเบอร์แรก “บีม กวี” ที่เป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของพ่อพ่อบีมกับแฝดตัวแสบอย่างพี่ธีร์น้องพีร์ใน Single ใหม่

นอกจากนี้ ในปีนี้ยังมีกิจกรรมความบันเทิงอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ‘VIBE SQUARE’ จาก 4th Apple โชว์เคสพิเศษจากศิลปินไทยที่จะโรดโชว์ไปตามสถานที่ต่างๆ คอนเสิร์ตและมิวสิคเฟสติวัลที่จัดขึ้นโดย COOLive และคอนเสิร์ต Grammy-RS ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์อีก 3 คอนเสิร์ต

เรียกได้ว่าภาพรวม RS Group ในปีนี้ แม้เพลงอาจจะไม่ได้สร้างรายได้หลักให้ แต่จะเป็นธุรกิจที่แอคทีฟและมีความชัดเจนโดดเด่นมากที่สุดในเครือ โดยเฮียฮ้อวางเป้ารายได้จากธุรกิจเพลงไว้ 600-700 ล้านบาท

[ ธุรกิจอื่นยังคงลุยเต็มที่ ]

ส่วนภาพรวม RS Group ในไตรมาสแรกปีนี้เรียกได้ว่าฟื้นตัวแรง โดยทำกำไรไปได้ถึง 92 ล้านบาท จากรายได้รวม 813 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 67% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

“แม้ในช่วงต้นปี จะเป็นช่วง Low season ของธุรกิจสื่อโฆษณา แต่รายได้ของ RS Group กลับเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างบริหารการขายทุกสื่อโฆษณาให้มารวมศูนย์อยู่ภายใต้สายงานการตลาดและขายสื่อโฆษณา (Media sales and Marketing) รวมไปถึงการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปสู่ OTT platform และต่างประเทศที่สูงขึ้น ทำให้รายได้รวมอยู่ที่ 419 ล้านบาท

ในส่วนของธุรกิจคอมเมิร์ซนั้น RS Mall ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าของเรา ได้ปรับกลยุทธ์เพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า ทั้งเครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มอาหารเสริมอื่นๆ ที่ไม่ได้ทับซ้อนกับสินค้าที่พัฒนาภายใต้บริษัท RS Livewell จึงทำให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้น และเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นด้วย

ส่วน RS Connect ที่ประกอบด้วย ULife กับ DeBeste ก็มีการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตของรายได้ในระยะยาว ทำให้รายได้จากธุรกิจคอมเมิร์ซของไตรมาสแรกอยู่ที่ 395 ล้านบาท

“นอกจากนี้ ยังรับรู้กำไรพิเศษจากการขายหุ้น CHASE บางส่วน มองว่าในไตรมาส 2/2566 รายได้จะกลับมาทำ New High อีกครั้งจากการจัดกิจกรรมทั้งคอนเสิร์ต อีเวนต์ รวมไปถึงการเพิ่มรายได้ใหม่ๆ จากธุรกิจคอมเมิร์ซ”

ทั้งนี้ นอกจากธุรกิจเพลง ในไตรมาส 2 จนถึงสิ้นปี 2566 RS Group มีแผนการดำเนินงานและเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น

-RS Livewell เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว ด้าน RS Mall เพิ่มความหลากหลายของสินค้าจากพาร์ทเนอร์ พร้อมขยายช่องทางการขายไปยังสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ

-RS Connect พัฒนาโมเดลธุรกิจให้มีความหลากหลาย สามารถขายสินค้าได้ง่ายขึ้น มีการเปิดตัวยูไลฟ์ สเปซ ศูนย์บริการสำหรับลูกค้าและตัวแทนจำหน่าย (Business Partners) แบบครบวงจร รวมไปถึงการสร้างรายได้จากการแตกไลน์โมเดลธุรกิจ ‘ปิ่นโต’ ที่เป็น Subscription Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน

-RS Pet All เริ่มต้นธุรกิจด้วยการเข้าลงทุนสัดส่วน 51% ในบริษัท ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จำกัด ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงครบวงจร ซึ่งล่าสุดได้ทำการเปิดตัวโรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ-ชัยพฤกษ์ ศูนย์สุขภาพสัตว์เลี้ยงครบวงจร เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่แมสมากขึ้น นำเสนอบริการคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้

นอกจากนี้ในธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง RS Group ยังเตรียมเปิดตัวร้าน Pet Shop สาขาแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรก ซึ่งจะมีบริการอื่นด้วย เช่น อาบน้ำ สปา คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนเดินหน้าขยายเป็น 6-7 สาขาในปีนี้ในพื้นที่ กทม. โดยใช้เงินลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 10-15 ล้านบาท

-RS Multimedia สำหรับช่อง 8 หลังจากมีการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสโลแกน “ข่าวช่อง 8 ที่นี่ของจริง” และการกลับมาอ่านข่าวอีกครั้งของ “พุทธ อภิวรรณ” ในรายการ “ลุยชนข่าว” ส่งผลให้เรตติ้งพุ่งแรงต่อเนื่อง ล่าสุดคว้าเรตติ้ง Nationwide 1.2% และสามารถเข้าถึงฐานผู้ชมกว่า 3.2 ล้านคน และจากนี้จะได้เห็นการปรับผังรายการต่างๆ ให้มีความเข้มข้นโดนใจกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น

ซึ่งเฮียฮ้อเชื่อว่าจากการดำเนินการทั้งหมดนี้ จะช่วยรายได้ในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายคืออยู่ที่ราว 5,000-5,500 ล้านบาท กำไร 10-12%

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ทำไม GRAMMY กับ RS ถึงต้องจับมือทำ ‘ซีรีส์คอนเสิร์ต’
• ‘เฮียฮ้อ’ พร้อมเขย่าวงการเพลงไทย หลังบอร์ดอนุมัติ นำ RS Music เข้าตลาดปีหน้า