Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

รัสเซียกำลังเจอปัญหาสมองไหล คนรุ่นใหม่ คนเก่งๆ พากันย้ายประเทศ มีตัวเลขแบบไม่เป็นทางการ พบว่า ตั้งแต่รัสเซียเริ่มสงคราม มีคนย้ายออกจากประเทศ ร่วม 2 แสนคนแล้ว 

หนึ่งในกลุ่มที่ย้ายประเทศ มีผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ โปรแกรมเมอร์ ซึ่งถือว่าเป็นแรงงานดิจิทัลทักษะสูง คนเหล่านี้กำลังดิ้นรนคว้าโอกาสใหม่ๆ ที่ต่างประเทศ 

เหตุผลก็เพราะโลกคว่ำบาตร ทำให้เป็นไปได้ยากที่จะเริ่มธุรกิจ หรือสร้างบริษัทนานาชาติในประเทศได้ 

เว็บไซต์สายข่าวเทคโนโลยี TechCrunch ออกสกู๊ปพิเศษ คุยกับแรงงานดิจิทัลทักษะสูงหรือ Tech Talent หลายราย โดยเป็นการสัมภาษณ์พูดคุยถึงความกังวลของชีวิตการงานในช่วงสงคราม และในฐานะที่เป็นคนรัสเซีย TODAY Bizview สรุปรวบรวมมาให้แล้วในบทความนี้ 

[ สตาร์ทอัพระดมทุนจากต่างชาติไม่ได้ ]

การที่โลกหันหลังให้รัสเซีย กระทบธุรกิจสตาร์ทอัพตรงๆ เพราะเป็นส่วนที่พึ่งพาเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเสียส่วนใหญ่ 

Eugene Konash คือหนึ่งในผู้ประกอบการรัสเซีย มีสตาร์ทอัพเป็นของตัวเองคือสตูดิโอเกม Dc1ab และมีสำนักงานย่อยที่ลอนดอนด้วย 

โดยทันทีที่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน บัญชีธนาคารลูกจ้างคนหนึ่งของ Konash ก็ถูกระงับ ทำธุรกรรมข้ามประเทศไม่ได้ ประชาชนรัสเซียเองก็ลำบาก ต้องต่อคิวยาวที่ธนาคาร ค่าเงินรูเบิลตกต่ำ การแลกเงินเป็นดอลลาร์ทำได้ยากลำบาก

จุดเปลี่ยนของ Konash เกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนบอกว่า Dc1ab สตาร์ทอัพของเขา  เริ่มเจอความไม่แน่นอน และอาจลงทุนต่อไม่ได้ ถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น 

Konash และทีมงาน จึงตัดสินใจ ย้ายทีม ย้ายบริษัท ออกจากรัสเซีย 

ยังมีประเด็นรัสเซียแบนโซเชียลมีเดีย Facebook Instagram บริษัทโซเชียลก็แบนรัสเซียกลับ ห้ามไม่ให้ซื้อแอดในรัสเซีย ระงับการขายบริการใหม่ๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อบริษัทไอทีย่อยๆ ในรัสเซียที่ใช้บริการคลาวด์จากต่างประเทศ

แต่นอกจากโซเชียลแล้ว ยังมี Tools ตัวอื่นๆ ที่ไว้ใช้ทำธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่นเครื่องมือพัฒนาเกม ที่เป็นของต่างชาติอย่าง Unity ก็อาจถูกรัสเซียบล็อกเมื่อไรก็ได้ 

นักลงทุนเกมชาวไซบีเรียรายหนึ่ง ที่ไม่อยากเผยชื่อเพราะกลัวว่าจะโดนต่างชาติคว่ำบาตร บอกว่า ไม่มีใครอยากอยู่ในประเทศที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอกไม่ได้ 

[ สตาร์ทอัพสายเทค ตีตัวออกห่างรัสเซีย ] 

ตั้งแต่ผนวกไครเมียเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในปี 2014 บริษัทรัสเซียหลายแห่งเริ่มสร้างบริษัทใหม่นอกรัสเซีย 

แต่เป็นการทำในนามเพื่อให้มีผลทางกฎหมาย เลี่ยงความเสี่ยงทางการเมือง และสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนว่าบริษัทไม่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย แต่ทีมงานยังคงทำงานกันในรัสเซีย เพราะค่าครองชีพถูก ค่าอินเทอร์เน็ตไม่แพง 

ตัวอย่างสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จระดับหนึ่งในรัสเซียคือ inDriver ก่อตั้งขึ้นใน ไซบีเรีย (ส่วนหนึ่งของรัสเซีย) ย้ายไปตั้งที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐ เพื่อโอกาสในการเติบโตที่ดีกว่า 

สงครามทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป Nikita Blanc ผู้ซึ่งเปลี่ยนนามสกุลจาก Akimov เจ้าของบริษัท Heyeveryone ผู้สร้างเครื่องมืออัตโนมัติในการจัดการนักลงทุน เล่าเรื่องราวตอนตัดสินใจหนีออกมาจากกรุงมอสโกว

Blanc เล่าว่า พอรัสเซียบุกยูเครนได้ 3 วัน ภรรยาก็ตัดสินใจซื้อเที่ยวบินเที่ยวเดียวไปจอร์เจีย ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของ Tech Talent รัสเซีย เช่นเดียวกับตุรกี อาร์เมเนีย คาซัคสถาน และไทย เพราะค่าครองชีพถูก และคนรัสเซียเข้าประเทศได้ง่าย ยังไม่ปิดน่านฟ้าเหมือนฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ 

[ รัสเซียสมองไหลมาเป็นทศวรรษ ]

ข้อมูลจาก Atlantic Council’s Eurasia Center ปี 2019 เผยว่า นับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ขึ้นเป็นประธานาธิบดี ชาวรัสเซียราวๆ 1.6-2 ล้านคน จากจำนวนประชากร 145 ล้านคน ได้ย้ายประเทศไปยังแถบตะวันตก และจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ที่พวกเขาสามารถใช้ทักษะของตัวเองได้อย่างเสรี 

ซึ่งการย้ายประเทศของคนรัสเซียนี้ Atlantic Council’s Eurasia Center วิเคราะห์ว่าไม่ได้มาจากแรงผลักดันทางการเมืองเสียทีเดียว

แต่คนอพยพรุ่นใหม่ๆ มีการศึกษาดี พูดได้หลายภาษา มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความตระหนักเรื่องพลเมืองโลก นอกจากนี้ อาชีพการงานก็มีความเฉพาะตัวและพึ่งพาตัวเองมากขึ้นด้วย 

ประกอบกับบรรยากาศการเมืองในประเทศที่ไม่เปิดเสรีมากนัก ทำให้คนรุ่นใหม่เลือกที่จะหาโอกาสใหม่ๆ ในต่างประเทศมากกว่า 

[ สตาร์ทอัพรัสเซียเกิดยากอยู่แล้ว ]

ต้องบอกว่า แม้แต่ตอนที่รัสเซียอยู่ในสถานการณ์สงบ ไม่ทำสงคราม อีโคซิสเต็มสตาร์ทอัพในประเทศ ก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่โดดเด่นระดับโลกเท่าไรนัก 

ส่วนหนึ่งเพราะแหล่งรายได้หลักของรัสเซียคือพลังงาน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ส่วนเทคโนโลยีก็ยังกระจุกตัวอยู่ในความมั่นคง กองทัพและการป้องกันประเทศ 

จนเข้าสู่ปี 2000 เป็นต้นไป รัสเซียเริ่มให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจนวัตกรรม ปี 2006 รัสเซียตั้ง Russian Venture Company (RVC) ซึ่งเป็นกองทุนของรัฐ และเริ่มลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร โทรคมนาคม

แต่เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาและยุโรปตะวันตก รัสเซียถือว่ามาช้าไปหน่อยสำหรับวงการเทคโนโลยี แม้ว่าสหภาพโซเวียตจะลงทุนกับเทคโนโลยีอวกาศ ทหาร แต่ก็ไม่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีไปให้เศรษฐกิจในส่วนอื่นๆ 

ตามรายงานของ CB Insights สหรัฐฯ มีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นเกือบ 600 แห่ง ส่วนจีนมีเกือบ 200 แห่ง แต่รัสเซียยังไม่มีสักแห่ง (ข้อมูลจาก Crunchbase)

Matthew Murray อดีตที่ปรึกษาอาวุโสด้านธรรมาภิบาลสมัยรัฐบาลโอบามา วิเคราะห์ประเด็นนี้ไว้น่าสนใจ เขาบอกว่า รัสเซียขาดความโปร่งใส การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาก็ไม่ค่อยแข็งแรง ทำให้ยากต่อการดึงดูดการลงทุนจากภายนอก

แล้วยังมาเจอบรรยากาศการเมืองไม่เสรี มีความเอื้อผลประโยชน์ให้พวกเดียวกันเองสูง การทุจริต ฝังอยู่ในระบบมากเกินไป สตาร์ทอัพจึงเกิดได้ยาก

[ สรุป ]

ภาวะสมองไหล สตาร์ทอัพซบเซา ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับรัสเซีย แต่ปัญหานี้จะยิ่งไม่มีทางออก เพราะรัสเซียทำสงครามกับยูเครน จนโลกเทคโนโลยีหันหลังให้ 

การคว่ำบาตรยังตัดช่องทางระดมทุนจากภายนอก ซึ่งเป็นท่อหล่อเลี้ยงให้สตาร์ทอัพเติบโต และเมื่อถึงวันที่ต้องฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง รัสเซียอาจต้องเริ่มสร้างใหม่ตั้งแต่ศูนย์เลยทีเดียว  

ที่มา : BBC, TechCrunch, Business of Business, Atlantic Council, New York Times

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า