ผบชน. นำตำรวจแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ปมปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ระหว่างการสลายการชุมนุมบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ขณะคืนก่อนหน้า #ม็อบ28มกรา พุ่งทะบานในทวิตเตอร์ ตั้งคำถามถึงการจับกุมที่นำผู้ต้องหาไปไว้ “กองสืบ” กว่า 5 ชั่วโมงโดยไม่ให้พบทนายความ วันนี้ (29 มกราคม 2564) เวลา 10.30 น. ที่สน.ปทุมวัน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. , พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ 3 ราย จากปมปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ระหว่างการสลายการชุมนุมบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์ วันที่ 16 มกราคม 2563 พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ระบุว่าเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ฯ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงภาพผู้ต้องหา 3 รายใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันขับขี่ขึ้นไปบนสะพานไทย-ญี่ปุ่นและโยนวัตถุบางอย่างจากด้านบนสะพานลงสู่ด้านล่างซึ่งเจ้าหน้าที่ในชุดคุมฝูงชนกำลังเดินแถวเพื่อทำการสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่รวมตัวกันในบริเวณนั้น เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมไปในช่วงเช้าวันเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่าทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อคดี โดยให้การว่าเป็นสมาชิกกลุ่มอาชีวะฟันเฟือง พร้อมรับสารภาพว่าจุดประสงค์ของการกระทำเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่น มีการตั้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน 5 ข้อหาด้วยกัน ได้แก่ -ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งขณะปฏิบัติหน้าที่ -ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น -ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดขึ้น -พาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร -ร่วมกันมีวัตถุระเบิด ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง ขณะที่ทวิตเตอร์กลุ่ม “การ์ดปลดแอก” ระบุเมื่อ 10.00 น. ช่วงก่อนมีการแถลงข่าวว่า มี1คนสารภาพอีก1คนปฏิเสธ 5 ชั่วโมงที่หายไประหว่างการจับกุม ผู้ถูกจับกุมทั้ง 3 รายได้แก่ นายวีรยุทธ สัมฤทธิ์เรืองศรี อายุ 29 ปี นายพรชัย ประกาพวง อายุ 23 ปี และนายณัฐสุต ศิริอัฐ อายุ 19 ปี ถูกจับกุมในช่วงกลางคืนวันที่ 28 มกราคม 2563 จากหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ 2 รายแรกถูกจับกุมในช่วง 19.00 น. โดยหมายจับที่ปรากฎระหว่างการจับกุมระบุว่าเป็นหมายที่ออกโดยสน.ปทุมวัน ทำให้กลุ่มผู้ให้กำลังใจพร้อมด้วยทนายความเดินทางมารอผู้ต้องหาตั้งแต่เวลา 20.00 น. ก่อนผู้ต้องหาทั้ง 2 จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวมาถึงสน.ปทุมวันในเวลา 23.50 น. โดยรถยนต์สองคัน เจ้าหน้าที่แจ้งผู้สื่อข่าวก่อนทั้งคู่มาถึงว่าถูกคุมตัว “มาจากกองสืบ” ระหว่างระยะเวลา 5 ชั่วโมงที่ผู้ต้องหายังเดินทางมาไม่ถึงสน.ปทุมวันหลังถูกจับกุม #ม็อบ28มกรา ทะยานขึ้นเทรนอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ประเทศไทย ท่ามกลางการตั้งคำถามว่าเหตุใดผู้ต้องหาไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อญาติหรือทนายความระหว่างการควบคุมตัว “ตามหลักกฎหมายผู้ถูกจับย่อมมีสิทธิแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับไว้วางใจทราบถึงการถูกจับกุมและสถานที่ที่ถูกควบคุมในโอกาสแรก และมีสิทธิพบและปรึกษาทนายความเป็นการเฉพาะตัว” นรเศรษฐ นาหนองตูม ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุ ช่วง 05.00 น. มีรายงานว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งได้ และถูกนำตัวมาที่สน.ปทุมวันในเวลาต่อมา เหตุระเบิด-ใช้อาวุธปืนหลายครั้งเกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมและรอการคลี่คลาย ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมาซึ่งเป็นช่วงที่การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีกระแสสูง มีเหตุระเบิด-ใช้อาวุธปืนเกิดขึ้นหลายครั้ง ได้แก่ 2 พ.ย. 63 – ระเบิดระหว่างการชุมนุมที่ท่าพระ 17 พ.ย. 63 – เหตุยิงหน้ารัฐสภา 25 พ.ย. 63 – ระเบิดหน้า scb สำนักงานใหญ่ 10 ธ.ค. 63 – ระเบิดหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ 31 ธ.ค. 63 – ระเบิดงานขายกุ้งของกลุ่ม WeVo หน้ากองสลากเก่า ถ.ราชดำเนิน 16 ม.ค. 64 – ระเบิดที่แยกสามย่าน พ.ต.อ.เอกกำธร อุ่ยเจริญ รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ระบุระหว่างแถลงข่าวครั้งนี้ว่าหลักฐานที่พบในเหตุระเบิดที่แยกสามย่านเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่เรียกกันว่าระเบิดปิงปอง โดยตั้งข้อสังเกตว่า “คล้าย” กับหลักฐานที่พบในเหตุระเบิดอื่น ๆ ก่อนหน้านี้อย่างน้อย 3 คดี ได้แก่ เหตุระเบิดที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์, หน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และที่หน้ากองสลากเก่า ถ.ราชดำเนิน ทั้งนี้ยังไม่อาจสรุปได้ว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดีนี้