Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

SCGP ทำรายได้จากการขายครึ่งปีแรก 57,148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์และการขยายตัวของการส่งออกเพิ่มขึ้นในภูมิภาคอาเซียน ตั้งเป้ารายได้จากการขายรวมทั้งปีไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีหลังเตรียมปิดดีลในอินโดนีเซียและสเปน

วันที่ 27 ก.ค.2564 นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 57,148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสำหรับงวด 4,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน EBITDA (กำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ไม่รวมเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม และรวมกำไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินกู้ยืม) อยู่ที่ 10,831 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น มาจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์และการส่งออกสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอาเซียน เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค อาหารและ อาหารแช่แข็ง เป็นต้น รวมถึงเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ประเทศในยุโรป และประเทศจีนเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โรคโควิด 19 ถึงแม้จะมีแรงกดดันจากต้นทุนด้านพลังงานและภาวะขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าทางเรือในช่วงที่ผ่านมา แต่บริษัทฯ ยังคงบริหารจัดการต้นทุน และปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้

และรายได้ที่เพิ่มขึ้นยังมาจากการวางกลยุทธ์ในการรักษาความเป็นผู้นำโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียนและการขยายธุรกิจได้ตามแผนงานที่วางไว้ ทั้งการเข้าควบรวมกิจการ (Merger & Partnership หรือ M&P) กับ Bien Hoa Packaging Joint Stock Company (SOVI) ประเทศเวียดนาม และการเข้าลงทุนใน Go-Pak UK Limited เพื่อขยายตลาดในภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิตที่แล้วเสร็จในช่วงที่ผ่านมา เช่น การเพิ่มกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ ในประเทศอินโดนีเซีย, การเพิ่มกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ในประเทศไทย เป็นต้น

SCGP สามารถรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการวางกลยุทธ์ขยายธุรกิจผ่านธุรกิจปัจจุบันและ M&P ทั้งในและต่างประเทศ โดยคาดว่าในปี 2564 จะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อกระจายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพิ่มพอร์ตบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงมีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม กระบวนการทำงาน และโมเดลธุรกิจ เพื่อนำเสนอโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละราย รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในวันที่ 27 ก.ค. 2564 คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 1,073 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 25 ส.ค. 2564 กำหนดวันที่ XD ในวันที่ 9 ส.ค.2564 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 10 ส.ค. 2564

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP

นายวิชาญ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมในครึ่งปีหลัง จะได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและยุโรป แต่ยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน

“ทิศทางการดำเนินงานของ SCGP ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายรายได้จากการขายรวมทั้งปีไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท”

ด้วยการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ที่วางไว้ และมีโครงการขยายกำลังการผลิต ได้แก่ การขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารจากกระดาษเพิ่มขึ้นอีก 1,615 ล้านชิ้นต่อปี ที่ประเทศไทยและประเทศเวียดนาม คาดว่าจะเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ รวมถึงการขยายกำลัง    การผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ในฟิลิปปินส์อีก 220,000 ตันต่อปี และการขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์พอลิเมอร์แบบอ่อนตัวในประเทศไทยอีก 53 ล้านตารางเมตรต่อปี ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่4 ปีนี้

“ล่าสุด SCGP ได้ปิดดีลการเข้าถือหุ้นร้อยละ 70 ใน Duy Tan Plastics Manufacturing Corporation (Duy Tan) ผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบคงรูปในเวียดนาม ตามการเข้าทำสัญญาซื้อหุ้นตามที่ได้เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2564 นอกจากนี้ ยังมีดีลที่อยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งคาดว่าจะปิดดีลสำเร็จในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ได้แก่ การเข้าถือหุ้นร้อยละ 75 ใน PT Indonesia Dirtajaya Aneka Industri Box, PT Bahana Buana Box และ PT Rapipack Asritama (Intan Group) เพื่อขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระดาษ ในประเทศอินโดนีเซีย และการเข้าถือหุ้นร้อยละ 85 ใน Deltalab, S.L. ประเทศสเปน เพื่อเสริมศักยภาพการให้บริการและการเติบโตของวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ของ SCGP ในระดับโลก ซึ่ง SCGP จะเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งด้วยการประสานความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาวควบคู่กับการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG)” นายวิชาญ กล่าวเพิ่มเติม

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า