SHARE

คัดลอกแล้ว

[ติดตามสัมภาษณ์เต็มๆ : https://youtu.be/zRGB4t3SIZ4?si=WdnrAsXtI_JdpxL_]

‘เติบโตไปตามการเมืองไทย’ คุยเรื่องชีวิตและการเดินทางของยานแม่กับ ฌอน POEM

หากเป็นคนที่สนใจในแฟชั่น ก็คงคุ้นชื่อแบรนด์ POEM เป็นอย่างดี และหากเป็นคนที่สนใจเรื่องการเมือง ก็คงเห็นแบรนด์ POEM ผ่านตาบ้างเช่นกัน 

ด้วยตัวแบรนด์ที่เรียกได้ว่าเป็น ‘ยานแม่’ ในแวดวงแฟชั่น มีเซเลบและดาราชื่อดังมากมายมาจับจองขึ้นยาน ตั้งแต่ใหม่—ดาวิกา, โอปอล์—ปาณิสรา, แอน—ทองประสม ไปจนถึง ตี๋ลี่เร่อปา นักแสดงชื่อดังจากจีน

ขณะเดียวกัน ก็มาพร้อมภาพจำกับโมเมนต์สำคัญของเหล่าผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองเสมอ ตั้งแต่กรณีที่พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.อนาคตใหม่ ใส่สูทแบรนด์นี้ไปอภิปรายในรัฐสภา มาจนถึงกรณีของ ทนายจูน—ศิริกาญจน์ และทนายแอน—ภาวิณี สองทนายหญิงจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่สวมยานแม่ไปรับรางวัล The Albie Awards จากมูลนิธิคลูนีย์เพื่อความยุติธรรม

“วงการแฟชั่นไทยก็ขับเคลื่อนสังคมได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการบ้านในการสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ของเราได้” คือคำกล่าวจาก ฌอน—ชวนล ไคสิริ ผู้ก่อตั้งและดีไซน์เนอร์แห่งแบรนด์ POEM ที่ทำให้เห็นว่า เส้นทางการเติบโตของยานแม่นั้น ตีทรงคู่ขนานไปอย่างแยกไม่ขาดกับการเมืองไทย

เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งเกิดเหตุรัฐประหาร ผู้นำเหล่าทัพยึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางไปยังสหรัฐฯ​ เพื่อร่วมการประชุมขององค์กรสหประชาชาติ ขณะที่กรุงเทพฯ อยู่ภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจากคณะรัฐประหาร

ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วัน ฌอนเซ็นต์สัญญาวางเงินมัดจำเช่าที่ที่สยามสแควร์ ซึ่งเขากล่าวว่า ได้พื้นที่ตรงนั้นมา เพราะการประกาศเคอร์ฟิวที่ทำให้ทุกคนต้องกลับบ้าน แต่เขายังเดินเตร่หาพื้นที่ว่างสำหรับเปิดร้านของตัวเอง

“บางคนบอกว่า ในการทำธุรกิจ ให้รอดูว่าผ่านปีที่ 4 ไปได้ไหม” 

ผ่านไป 4 ปีตามคำกล่าวที่เขาเคยได้รับ ก็เกิดเหตุสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงในปี 2553 มีเหตุไฟไหม้และระเบิดที่เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดพลิกผันสำหรับฌอน เมื่อจุดเกิดเหตุคือที่เดียวกับที่ตั้งของร้าน POEM ฌอนคิดว่าร้านคงไม่พ้นจากเพลิงไหม้แน่ๆ จึงตัดสินใจว่าจะล้มเลิกเส้นทางดีไซน์เนอร์ และกลับไปสู่เส้นทางสถาปนิกอีกครั้ง ตามที่ตนเคยร่ำเรียนมา

แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด มีเพียงประตูบานม้วนที่เสียหายเล็กน้อย ทำให้ฌอนยังคงมุ่งมั่นทำร้าน POEM ต่อไป

“เดือนพฤษภาคม ปี 2553 เป็นตัวตัดเกรดว่า ดีไซน์เนอร์แบรนด์ในช่วงนั้น ใครจะทำต่อ เพราะผ่านเดือนพฤษภาคมไปปุ๊บแบรนด์ปิดกันเต็ม ไทยดีไซน์เนอร์ที่รู้สึกว่ามันยากและท้าทายเกินไปก็ไปทำอาชีพอื่น ปิดร้านกันหมด ส่วนเราพอผ่านช่วงเวลานั้นมาก็รู้สึกว่ามันมีการเติบโตที่เห็นได้อย่างชัดเจน”

ความน่าสนใจอีกอย่างคือ ในขณะที่แบรนด์ต่างๆ มักวางแผนทำ PR ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวแบรนด์ แต่ POEM กลับเพิ่งเริ่มทำ PR ในปี 2558 หลังจากที่ริเริ่มสร้างแบรนด์มาได้ 9 ปี ซึ่งในช่วงปีนี้เอง ก็เกิดเหตุสำคัญทางการเมืองไทยอย่างการรัฐประหารรัฐบาลของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

การพุ่งทะยานของยานแม่ปรากฏให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ในช่วง COVID-19 ซึ่งรัฐบาลออกมาตรการล็อกดาวน์ให้คนอยู่บ้าน นำความเปลี่ยนแปลงมาเยือนแบรนด์ POEM อีกครั้ง เมื่อฌอนมองว่าการล็อกดาวน์คือช่วงเวลาที่ทำให้รับรู้ข้อมูลข่าวสารมากขึ้น จนตัวเขาเองก็เริ่มมีมุมมองที่เปลี่ยนไปจากเดิม เป็นผลึกความคิดที่ตกตะกอนได้ว่า เราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเสมอ

ขณะเดียวกัน ค่านิยมความงามของสังคมก็ผันเปลี่ยนไปด้วย จากความงามตามอุดมคติดั้งเดิม ซึ่งเคยเป็นสิ่งที่ POEM ยึดถือ กลายเป็นความงามของการอยู่ร่วมกับความหลากหลาย และผู้คนเคารพความเป็นมนุษย์ซึ่งกันและกัน ทำให้ POEM ต้องกลับมาทำการบ้าน เพื่อให้แบรนด์โอบรับความหลากหลายของมนุษย์อย่างแท้จริง

จนมาถึงกรณีที่ช่อ—พรรณิการ์ อดีต สส.อนาคตใหม่ที่ใส่ชุดแบรนด์ POEM ไปสภาและทำให้เกิดกระแสฮือฮามากมาย ซึ่งฌอนเล่าว่า ในช่วงเวลานั้น ผู้คนในแวดวงแฟชั่นซึ่งโดยมากเป็นกลุ่มอนุรักษนิยมต่อสายมาถามไถ่หรือต่อว่าเขาเยอะมาก หลายคนเชื่อสุดใจว่า แบรนด์ POEM ส่งชุดไปเป็นสปอนเซอร์ให้กับพรรณิการ์ ซึ่งฌอนย้ำว่า นั่นไม่ใช่การสปอนเซอร์แต่อย่างใด

ช่วงเวลาที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปี 2566 ซึ่งมีอีเวนต์สำคัญทางการเมืองไทย นั่นคือ การเลือกตั้ง ทำให้ชุดข้อมูลต่างๆ ที่ฌอนเคยได้รับเริ่มเชื่อมโยงกัน ซึ่งเขานิยามว่า การเลือกตั้งในครั้งล่าสุดนั้นเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนตื่นรู้และมีความเชื่อเป็นของตัวเองมากขึ้น

“เรามีภาพที่ค่อนข้างชัดว่าสังคมที่ดีมันควรจะเป็นยังไง ไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองนะ มันเป็นเรื่องวัฒนธรรมย่อยๆ อย่างในวงการแฟชั่น วัฒนธรรมบางอย่างก็ควรเปลี่ยนได้แล้ว” 

ฌอนยังเล่าย้อนด้วยว่า เป้าหมายของการทำเสื้อผ้าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คือการทำให้ชุดออกมาสวย แต่ทุกวันนี้ เขาเริ่มตั้งคำถามมากขึ้นว่า นอกจากความสวยแล้ว จะต้องทำยังไงให้แบรนด์ POEM ตอบโจทย์ในฐานะไทยดีไซน์เนอร์ในปี 2566

“เรากำลังจะเขียนประวัติศาสตร์ของวงการแฟชั่นไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมและวัฒนธรรมไทยในยุคสมัยของเรา เราทำให้มันสวยแล้วไงต่อ มันจะบอกเล่าเรื่องราวของสังคมที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้ไหม เล่าเรื่องการให้คุณค่าหรือความหลากหลายได้ไหม”

จากชีวิตที่เติบโตมาในฐานะลูกหลานคนจีน จนถึงการผ่านเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ทางการเมืองและสังคมของไทย ฌอนย้ำว่าวงการแฟชั่นไทยก็สามารถขับเคลื่อนสังคมได้เช่นกัน

“มันจะมีโอกาสไหมที่ดีไซน์ของเราจะเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของ Timeframe ตรงนี้ แล้วทำให้ขับเคลื่อนสังคมไปในทางที่ดีขึ้น เป็นเลนส์ที่กว้างกว่าจะมาซูมดูว่า ‘ทำให้ผู้หญิงคนนึงสวย’”

ด้วยแนวคิดนี้ ทำให้ฌอนมองว่า สิ่งสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคม คือการที่ Key persons หลายคนในช่วงเวลาแห่งยุคสมัยนี้ เลือกใส่ชุดของ POEM ซึ่งไม่ใช่แค่พรรณิการ์หรือเซเลบเบอร์ใหญ่ของประเทศ แต่ยังมีผู้นำทางความคิด (KOL) หลายคนที่แม้ผู้ติดตามอาจไม่เยอะ แต่ก็มีตัวตนที่พูดถึงประเด็นบางอย่างในสังคมอย่างชัดเจน 

ซึ่งฌอนมองว่า หากคนเหล่านี้ใส่ชุดของยานแม่ แบรนด์ POEM ก็อาจสร้างความเคลื่อนไหวในสังคมให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นไปด้วยเช่นกัน

“ดีไซน์เนอร์ทุกคนอยากให้ผู้หญิงที่มาใส่ชุดของเขา เป็นผู้หญิงฉลาด บางคนบอกว่าเสื้อผ้าทำให้ผู้หญิงดูฉลาดได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ มันไม่ควรมีเสื้อผ้าอันไหนที่ทำให้ผู้หญิงดูฉลาด เพราะถ้าดูฉลาดก็แปลว่าความจริงคือโง่ เสื้อผ้าก็คือเสื้อผ้า คนใส่จะเล่าเรื่องว่าเสื้อผ้านั้นเป็นอย่างไร”

แนวคิด ดีไซน์ และทิศทางของยานแม่นั้น เติบโตคู่ขนาดไปกับการเมืองและสังคมไทยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสำหรับผู้ก่อตั้งแบรนด์ POEM นั้น บทเรียนล่าสุดที่เขาตกตะกอนได้ มาจากผลการเลือกตั้งในปี 2566 ซึ่งบอกให้รู้ว่า “เราไม่สามารถต่อสู้กับโชคชะตาได้ ทุกอย่างมันมีวาระและเวลาของมัน แต่มั่นใจว่าถ้ามันถึงเวลา ใครก็จะสู้เราไม่ได้”

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า