Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

หมอฟันจังหวัดบุรีรัมย์โพสต์เตือนภัย คนไข้เข้ามารักษาฟันหลังไปจัดฟันแฟชั่นจนไม่สามารถแปรงฟันได้ส่งผลให้ฟันผุทะลุโพรงประสาท และเกิดหินปูนน้ำลายทั้งปาก

วันที่ 20 ก.พ.2563 เรื่องราวของคนไข้ท่านนี้ถูกเปิดเผยโดยคุณหมอท่านหนึ่ง โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า หมอเจอเคสจัดฟันแฟชั่น เป็นเคสที่คนไข้ไม่สามารถทำความสะอาดได้เลย ไม่ต้องพูดถึงฟันที่ออกมาเรียงตรงหน้ากระดานตามลวดตรงๆที่เค้าใส่เข้าไป ความรู้สึกในฐานะหมอจัดฟันคนนึง เหล็กจัดฟันประโยชน์ก็มีมากมาย แต่โทษก็มหันต์เหมือนกัน ถ้าเอาไปใช้ในทางที่ผิด และก็ไม่ใส่ใจดูแลทำความสะอาด

อยากให้ทุกคนที่เห็นโพสนี้ ได้ตระหนักถึงโทษของการจัดฟันแฟชั่นกันน้า ขออภัยหากภาพจะดูไม่เหมาะสมโดยเฉพาะหากเห็นตอนทานอาหาร ภาพนี้ขออนุญาตผู้ป่วยแล้ว

การรักษาที่ให้ไปก่อนการถ่ายรูปคือ ถอดเครื่องมือจัดฟัน ขูดหินน้ำลาย และสอนคนไข้ทำความสะอาดช่องปาก และนัดกลับมาดูวันรุ่งขึ้น พบว่า คนไข้สามารถทำความสะอาดช่องปากได้ดีขึ้นมาก และมีฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน 2 ซี่ คนไข้ปฏิเสธการรักษารากฟันจึงวางแผนถอนฟันทั้ง 2 ซี่ และคนไข้รายนี้ยังมีนัดทำฟันอย่างต่อเนื่องทั้งต้องอุดฟัน ใส่ฟันปลอม

โทษของการจัดฟันแฟชั่นนั้นมีหลายอย่าง ทั้งการที่ไม่ได้ถูกประเมินว่ามีความจำเป็นต้องจัดฟันหรือไม่, การที่ไม่ได้เตรียมช่องปากก่อนการจัดฟัน (ติดเครื่องมือทั้งๆที่ฟันยังผุ), เครื่องมือที่ใช้ทำอาจไม่ได้รับการฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม, การไม่ได้มาตรวจฟัน และ เปลี่ยนยางอย่างต่อเนื่อง, เครื่องมือจัดฟันทำให้ฟันเคลื่อนได้ทุกทิศทาง​ เพราะฉะนั้นควรถูกใช้อย่างถูกวิธี​โดยทันตแพทย์​, การที่ไม่ได้รับการสอนทำความสะอาดอย่างถูกวิธี, ส่วนมากหลังจากทำไปจะทำให้การสบฟันผิดปกติมากขึ้นอีก

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเหตุผลเพียงพอแล้วที่อยากให้ทุกคนตระหนักถึงผลเสียของการจัดฟันแฟชั่น

 

ทั้งนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้รับบริการที่จัดฟันแฟชั่นเสี่ยงอันตราย แนะ รักษากับทันตแพทย์โดยตรง เลี่ยงคลินิกจัดฟันเถื่อน โดย นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การจัดฟันแฟชั่นอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค เนื่องจากผู้ที่ให้บริการเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้ทางทันตกรรม จึงก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้ เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดฟันไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ หรือมีการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ต่างๆ แล้ว แต่ไม่ถูกวิธีทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคที่อุปกรณ์ ก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่ติดต่อ ได้แก่ โรคตับอักเสบ วัณโรค ฯลฯ ซึ่งเกิดจากอุปกรณ์ที่ใช้จากลูกค้าคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง หรือจากการใช้คีมตัดลวดที่มักเป็นคีมสำหรับงานช่างทั่วไป ซึ่งสกปรกและเกิดสนิม เมื่อตัดลวดแล้วก็นำเอาลวดมาใส่ในปาก รวมถึงลวดที่ใช้อาจเป็นวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ มีการปนเปื้อนของสารพิษต่างๆ เช่น สนิม ปรอท แคดเมียม สารหนู เป็นต้น ซึ่งสารพิษเหล่านี้จะถูกสะสมเข้าไปในร่างกายอย่างต่อเนื่อง เกิดผลเสียต่ออวัยวะต่างๆ นอกจากนี้ การที่ผู้ให้บริการไม่มีความรู้เรื่องแรงที่เกิดจากลวดจัดฟัน จึงอาจติดลวดจัดฟันให้ลูกค้าด้วยแรงที่มากเกินไป ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนฟันไปในทิศทางที่ไม่ต้องการ จนฟันเรียงตัวผิดรูป และอาจทำให้รากฟันละลายจนฟันตาย หรือการเก็บปลายลวดที่ไม่เรียบร้อย อาจเกี่ยวกระพุ้งแก้มเป็นแผลได้

ทางด้านทันตแพทย์หญิงปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า เครื่องมือจัดฟันแฟชั่นที่ใส่ในปากมักจะมีการยึดที่ไม่แน่นพอ เพราะขั้นตอนการทำผิดวิธี ทำให้มีโอกาสที่ลวด ลูกปัด หรือเหล็กสี่เหลี่ยมเล็กๆ หลุดลงคอ หรืออาจหลุดลงไปปิดหลอดลมทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งขณะนี้มีการขายสินค้าที่เป็นเครื่องมือแพทย์ และสินค้าลอกเลียนแบบที่ใช้เฉพาะจัดฟันแฟชั่นทางออนไลน์ ทั้งแบบนำไปเปิดร้านค้าย่อย หรือขายเป็นรายบุคคล โดยไม่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากองค์กรใดๆ ผ่าน social network และสามารถติดต่อสื่อสารเพื่อแจ้งสถานที่ตั้งของร้านค้าหรือนัดไปทำที่บ้านของผู้รับบริการ ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงการจัดฟันแฟชั่นได้ง่ายยิ่งขึ้น

“ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงออกกฎหมายดำเนินการต่อผู้ให้บริการจัดฟันแฟชั่น โดยแจ้งว่า การเปิดร้านจัดฟันแฟชั่น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานเปิดคลินิกเถื่อนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการให้บริการจัดฟันโดยที่มิใช่ทันตแพทย์ จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537 ฐานประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนพบเห็นการบริการจัดฟันแฟชั่น สามารถแจ้งเบาะแสร้านจัดฟันได้ทาง facebook มือปราบหมอฟันเถื่อนของทันตแพทยสภา เพื่อส่งข้อมูลต่อไปยังสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป” ทันตแพทย์หญิงปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า