Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 28 ส.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง กรณีพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2562 (ฉบับที่ 12) ที่จะมีผลบังคับใช้ วันที่ 20 กันยายนนี้ว่า เมื่อตำรวจจราจรเรียกตรวจใบขับขี่ ประชาชนสามารถยื่นหลักฐาน 1 ใน 3 รูปแบบ ได้แก่ ใบขับขี่ , ข้อมูลใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชั่น ของกรมการขนส่งทางบก และใบแทนที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง แทนการยึดใบขับขี่ โดยในส่วนของใบแทนของกรมการขนส่งทางบก อยู่ระหว่างการหารือถึงรูปแบบการอนุญาต ซึ่งจะต้องประกาศให้ประชาชนรับทราบก่อนวันที่ 20 ก.ย. อย่างไรก็ตาม การตัดคะแนนความประพฤติกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร จะเริ่มวันที่ 19 ธ.ค.

ส่วนกรณี นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึง นายกรัฐมนตรี ให้ชะลอการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ เนื่องจากเห็นว่าการเพิ่มโทษปรับ 5 เท่าส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนส่งและประชาชน อีกทั้งยังเปิดช่องให้ตำรวจทุจริตคอร์รัปชั่นรางวัลนำจับ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า เรื่องความเหมาะสมและผลกระทบต่อประชาชนเป็นเรื่องที่สามารถร้องเรียนได้ และเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จะพิจารณาว่าจะมีการชะลอกฎหมายหรือไม่ แต่หากกฎหมายมีผลบังคับใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมวอนขอให้ประชาชนให้มองมุมกลับว่าการเพิ่มโทษปรับ 5 เท่า เป็นบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจราจร และทำให้ประชาชนเกิดความหลาบจำไม่ทำผิดซ้ำซ้อน

ส่วนกรณีรางวัลนำจับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือให้ประชาชนถ่ายคลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร้องเรียนมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ หากมีการใช้ช่องว่างของกฎหมายในการหาประโยชน์ มีบทลงโทษถึงขั้นไล่ออกทุกราย

ทั้งนี้ ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับใหม่ มาตรา 16 กำหนดให้เพิ่มข้อความเดิมใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยมีใจความสำคัญ คือ

“มาตรา ๑๖๐ จัตวา ในกรณีที่เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถที่ได้รับใบสั่งตามมาตรา ๑๔๐ วรรคสอง เป็นนิติบุคคล ให้ผู้แทนของนิติบุคคลนั้นมีหน้าที่แจ้งชื่อ ที่อยู่ พร้อมทั้งหลักฐานอื่นใดต่อพนักงานสอบสวนที่แสดงว่าผู้ใดเป็นผู้ขับขี่ในขณะที่พบการกระทำความผิดตามที่ระบุไว้ในใบสั่งภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับใบสั่ง หากผู้แทนของนิติบุคคลไม่แจ้งภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวให้นิติบุคคลนั้นต้องระวางโทษปรับในอัตราห้าเท่าของโทษปรับสูงสุดที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้น…”

แหล่งข่าวด้านกฎหมายจราจร อธิบายว่า สำหรับโทษ 5 เท่า กำหนดไว้เฉพาะกรณีนิติบุคคลเพื่อไม่ให้หลีกเลี่ยงการแจ้งข้อมูลผู้ขับรถซึ่งจะนำไปสู่การตัดแต้มของผู้ขับขี่ และจะมีผลต่อการพักใช้ใบอนุญาตเมื่อถูกตัดแต้มเกิน ซึ่งเกณฑ์การตัดแต้มอยู่ระหว่างการออกระเบียบและจะมีผล 19 ธ.ค. นอกจากนั้นยังมีการพิจารณาเพิ่มโทษกรณีขับรถระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ ที่เดิมต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท เป็นมีโทษจำคุกด้วย

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า