ประเด็นคือ – พบศพชายวัย 20-30 ปี ถูกฆ่าโหดถ่วงเเม่น้ำโขง ตั้งปม 3 ประเด็น คือ ขัดผลประโยชน์เรื่องจากเสพติด ทะเลาะวิวาทกัน และเรื่องชู้สาว
วันที่ 7 มี.ค. 61 ร.ต.อ.พิทักษ์ จันตา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกฆ่าถ่วงน้ำโขง ลอยอืดมาติดอยู่ที่แพขนานยนต์หน้าด่านศุลกากรบึงกาฬ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ
พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ , พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน รอง ผบก., พ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ , พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ , นายแพทย์จารุวัฒน์ บำรุงกิตติกุล แพทย์เวร รพ. บึงกาฬ และหน่วยกู้ภัยนทีธรรมไปยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบศพชายนอนหงายลอยอืด ปะปนมากับขยะ หน่วยกู้ภัยจึงใช้เชือกดึงศพออกมาจากซอกเรือทั้ง 2 ลำ นำมาขึ้นฝั่งเพื่อชันสูตร ที่หน้าวัดป่าบ้านพันลำ เป็นชายรูปร่างสันทัดสูงประมาณ 165-170 ซม. ผมสั้น อายุประมาณ 20 – 30 ปี สภาพศพใส่เสื้อกีฬาสีน้ำเงิน-ขาวแขนสั้น มีตัวหนังสือภาษาอังกฤษสกรีนที่หน้าอกเสื้อว่า british soccer ระบุผลิตที่ประเทศเวียดนาม และกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน มีหมวกเป็นผ้า COTTON สีดำ คลุมใบหน้าและศีรษะ ไม่สวมกางเกงใน
ที่ลำคอ ข้อมือข้อเท้าถูกมัดด้วยเชือกไนล่อนสีเขียว และพันทับซ้ำด้วยเทปกาว ที่เอวมีเชือกมัดหินทรายก้อนใหญ่หนักประมาณ 40 กก. มัดติดถ่วงเอาไว้ ซึ่งมีการถักทอด้วยเชือกไนลอนผูกมัดเป็นตายข่ายรอบๆ ก้อนหินกันไม่ให้หลุด
และมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม 2 แผล ความยาวประมาณ 10 ซม.เข้าที่ใต้ชายโครงด้านขวาจนไส้ทะลัก มีหนอนไต่ยั้วเยี้ย ศพส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 วัน
พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนทั้งภูธรจังหวัดและ สภ.เมืองบึงกาฬ เร่งออกหาข่าวเพื่อคลี่คลายคดีและติดตามจับกุมกลุ่มฆาตกร มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว แต่จากการติดตามแกะรอยผู้ตายไม่มีแจ้งคนหายในท้องที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นไปได้ว่า ผู้ตายอาจเป็นคนสัญชาติลาว ถูกฆ่าทิ้งและศพลอยมาติดฝั่งไทยตามกระแสน้ำไหล
แต่จากดูสภาพศพที่มีหินหนัก 40 กก.มัดถ่วงเอาไว้ก็น่าจะเป็นไปได้ว่าจุดเกิดเหตุหรือจุดนำศพมาทิ้งไม่น่าจะอยู่ห่างจากจุดพบศพมากนัก เพราะกว่าศพจะลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำได้ต้องใช้เวลา
ส่วนสาเหตุการฆาตกรรมนั้นน่าจะเกิดจาก 3 ประเด็น คือขัดผลประโยชน์เรื่องจากเสพติด ทะเลาะวิวาทกันและเรื่องชู้สาว แต่วิเคราะห์ดูเหตุการณ์แล้วผู้ตายน่าไม่ใช่คนไทย เนื่องจากไม่มีการแจ้งคนหาย และเสื้อกีฬาที่ใส่ คนไทยก็ไม่นิยมใส่ ซึ่งระบุ MADE IN VIETNAM