เร่งพิสูจน์ซากอุ้งเท้าหมีขอ-ปลด “ปลัดร่วมแก๊งออฟโรด”

ผูู้ว่าฯ กาญจนบุรี สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย อยู่ร่วมแก๊งออฟโรด ซุกอุ้งเท้าหมีขอ ระหว่างเดินทางออกจากเขตอุทยานฯ ไทรโยค ด้าน รองนายกฯ ชี้ เป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่าเหมารวมเจ้าหน้าที่รัฐ ยืนยันคดีเสือดำ ยังดำเนินการอยู่เช่นกัน

จากกรณีชุดพญาเสือ-เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติไทรโยค จับกุม นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี กับพวกกลุ่มออฟโรด พร้อมซากอุ้งเท้าหมีขอ 4 เท้า อาวุธปืน เครื่องกระสุน ขณะเดินทางออกจากเขตอุทยานฯ เมื่อ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา

(จีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี)

วันที่ 8 ต.ค. นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับคำสั่งจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ตามกฎ ก.พ. ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2538 ข้อ 3 (1) จนกว่าคดีหรือผลการสอบสวนจะแล้วเสร็จ

นอกจากนี้ ให้พักการเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนชั่วคราว  นายสกานต์ แก๋งหลวง และ นายอนุสรณ์ เรือนงาม สมาชิก อส. สังกัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย ทั้งนี้ หากผลการสอบสวน หรือคดีสิ้นสุด พบว่า ได้กระทำผิด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จะสั่งให้ออกจากสมาชิก อส. และในระหว่างนี้ จะไม่ได้รับค่าตอบแทน

“ในจังหวัดเรานี้ก็มีสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์แรกคหบดี อีกเหตุการณ์เป็นของเจ้าหน้าที่รัฐ ขอเรียนว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล แนวความคิดในเรื่องของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมตอนนี้กำลังเป็นกระแสที่รุนแรง แล้วเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมีความเข้มข้นในการปฏิบัติ ถ้าหากมีการจับกุมนั่นหมายความว่า ทั้งสองรายที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า จับกุมอย่างไม่ไว้หน้าใคร เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่ถ้าท่านอยากจะเข้าป่า ล่าสุดหรือไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมในอุทยานฯ ผมเชื่อว่า ต้องถูกจับกุมดำเนินคดี คิดว่า ไม่มีใครเว้นหรือลดหย่อนผ่อนโทษให้ท่านได้” ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี กล่าว

(ภาพจาก FB : ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)

• กรมอุทยานฯ เร่งพิสูจน์ซากอุ้งเท้าหมีขอ เพื่อชี้ชัดว่าถูกล่า หรือ ซื้อมาตามกล่าวอ้าง

นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เบื้องต้นกรมอุทยานฯ ได้แจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากหมีขอเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 194 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ซึ่งอยู่ในกลุ่มเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ให้ข้อมูลใดๆ และอ้างว่า อุ้งตีนหมีดังกล่าวซื้อมาจากข้างนอก แต่ถือมีความผิด ทั้งการพกปืนเข้าอุทยานฯ และมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองในครองครอบ จากนี้จะขยายผลไปยังกลุ่มคนล่าด้วย

“อธิบดีกรมอุทยานฯ กำชับให้เร่งดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี พร้อมนำซากมาตรวจพิสูจน์ ยืนยันว่า สามารถตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ว่า อุ้งตีนหมีถูกล่าในพื้นที่อุทยานฯ หรือซื้อมาจากด้านนอก”

 รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวย้ำว่า วันนี้ตำรวจตรวจพิสูจน์หลักฐานจะเข้าพื้นที่ไปตรวจสอบอย่างละเอียดร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ซึ่งที่ผ่านมามักมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐขอเข้าพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง จึงกำชับให้เข้มงวดมากขึ้นแล้ว ส่วนกลุ่มนักอนุรักษ์ที่ออกมาเคลื่อนไหวโยงกับคดีเสือดำขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมและการทำงานของตำรวจ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยานฯเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน

• ประวิตร ยืนยันหากผิดลงโทษเด็ดขาด แต่ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา พร้อมซากสัตว์ป่าสงวน ในเขตอุทยานฯ ไทรโยค ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมอยู่ในคณะด้วยว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่ ถ้าทำผิดก็ดำเนินคดีทั้งหมด กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของบุคคล จะว่าข้าราชการทั้งหมดไม่ได้ และต้องให้ความเป็นธรรมว่า ทำจริงหรือไม่

ส่วนที่มีเสียงถามถึงคดีเสือดำ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ยังดำเนินคดีอยู่ จะว่าเงียบได้อย่างไร ศาลยังไม่ตัดสิน ดำเนินการตามกระบวนการอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น.วันนี้ (8 ต.ค. 61) ศาลอาญา นัดพร้อมคู่ความอัยการคดียื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ – ภรรยา กับพวกรวม 3 คน ร่วมกันครอบครอบงาช้างป่าแอฟริกา 4 กิ่ง เข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านการเสียภาษีศุลกากรฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แก๊งออฟโรด อ้างซื้อ ‘อุ้งเท้าหมีขอ’ จากชาวบ้าน-อุทยานฯ ไทรโยค แจ้ง 9 ข้อหา

รวบแก๊งออฟโรดล่า “หมีขอ” ในอุทยานแห่งชาติ พบปลัดอำเภอร่วมก๊วนด้วย