กรมอุทยานฯ มั่นใจไม่มีใครหลุดคดี “ร่วมฆ่าเสือดำ” ส่งผลตรวจซากให้ตร.วันนี้

ประเด็นคือ – หลังจากกระแสสังคมจับตาคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรอย่างใกล้ชิด ในส่วนของคดีดูจะมีความรวดเร็วขึ้น โดยวันนี้ตำรวจจะมีการตรวจสำนวน พร้อมรับผลพิสูจน์ซากสัตว์ป่าอย่างเป็นทางการจากกรมอุทยานฯ

วันนี้(8 มี.ค.) พนักงานสอบสวนสภ.ทองผาภูมิ และพนักงาน สอบสวน กองบังคับการตำรวจภุธรจังหวัดกาญจนบุรี จะเดินทางไป ที่กองบัญชาการตำรวจภุธรภาค 7 (บช.ภ.7) เพื่อตรวจสอบความพร้อมของสำนวนคดี ขณะที่ ทางกรม อุทยานฯ จะนำผลพิสูจน์ซากสัตว์อย่างเป็นทางการ มามอบให้ที่บช.ภ.7ด้วย  และคาดว่า อาจไม่เกินวันที่ 15 มี.ค. จะสามารถสรุปสำนวนคดียิงเสือดำให้อัยการได้ และคาดว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ จะเดินทางมาพบและร่วมสอบปากคำในครั้งนี้ด้วย

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ยืนยันการทำงานเกี่ยวกับคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่มีนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก ตกเป็นผู้ต้องหา ในส่วนของกรมอุทยานฯ ไม่ได้ทำงานล่าช้า แต่ทำต่อเนื่อง  เนื่องจากขั้นตอนด้านนิติวิทยาศาสตร์ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ เช่น การตรวจดีเอ็นเอซากเสือดำ ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าซากเนื้อเสือดำในหม้อซุป เครื่องใน กระดูกท่อนขา จำนวน 2 ชิ้น ที่พบในที่เกิดเหตุ รวมทั้งวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ ได้แก่ มีดอีโต้ มีดทำครัว และมีดเหน็บ 6 เล่ม ปรากฏว่ามีดเหน็บ 2 เล่ม พบดีเอ็นเอของเสือดำ ซึ่งเป็นเสือดำตัวเดียวกันและเป็นเพศเมีย ส่วนที่อ้างว่าเป็นเนื้อเก้ง ผลพิสูจน์พบว่าเป็นเนื้อหมูป่า ชิ้นเนื้อที่อ้างว่าเป็นเนื้อไก่ฟ้าหลังเทาพบว่าเป็นไก่ฟ้าหลังขาว

นายปิ่นสักก์ กล่าวต่อว่า ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ยิง แต่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ถูกแจ้งข้อหาในคดีร่วมกันฆ่าสัตว์ป่าอยู่แล้ว ซึ่งกรมอุทยานฯ มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีทั้งหมดว่า จะสามารถเอาผิดได้ ผู้ต้องหาไม่วันหลุดคดีไปได้

ส่วนกรณีสังคมมีการตั้ง แฮชแท็กไม่เอาศรีวราห์ ทางกรมอุทยานฯ จะขับเคลื่อนอย่างไร นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า ตลอดเวลากว่า 1 เดือน กรมอุทยานแห่งชาติได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด ทำงานเป็นทีมเดียวกัน ซึ่งมั่นใจในทีมงานทุกคน 100 เปอร์เซ็นต์

• เล็งยึดงาช้างภรรยาเปรมชัย

 นายปิ่นสักก์ กล่าวต่อว่า ส่วนงาช้างจำนวน 4 กิ่ง ที่ตรวจยึดได้จากบ้านนายเปรมชัยนั้น ผลการตรวจพิสูจน์ปรากฏว่า เป็นงาช้างแอฟริกา โดยเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความกับทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เพื่อดำเนินคดีกับ นางคณิตา วิทยานันท์ ภรรยานายเปรมชัย ในความผิดฐานมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้างแอฟริกา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ซึ่งจากนี้ผู้ครอบครองต้องหาหลักฐานการครอบครองมายื่นตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งหากไม่มีหลักฐานกรมอุทยานแห่งชาติจะสามารถยึดตกเป็นของแผ่นดินต่อไป

• กรมอุทยานฯ แจ้งความ “เปรมชัย” เพิ่ม

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้เข้าแจ้งความเพิ่มเติมกับนายเปรมชัย อีก 1 ความผิดฐานร่วมกันกับภรรยา มีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้ง ข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืน หลังพบ 2 ใน 43 กระบอก เป็นปืนที่ไม่ถูกต้อง

• รองผบ.ตร.ไม่ท้อ-ไม่แคร์โซเชียล

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอจากของกลางที่พบในที่เกิดเหตุ ทั้งอาวุธปืน อุปกรณ์ครัว และอื่นๆ นั้นเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า มีดีเอ็นเอของเสือดำปะปนอยู่ ยืนยันว่าพยานหลักฐานทั้งหมดมีความแน่นหนาพอที่จะดำเนินคดีกับนายเปรมชัยและพวกได้ โดยคาดว่าจะสรุปสำนวนส่งฟ้องพนักงานอัยการได้ภายในวันที่ 26 มีนาคมนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่โลกโซเชียลแชร์แฮชแท็กไม่เอาศรีวราห์นั้น รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ทำงานตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ส่วนโลกโซเชียลจะว่ายังไงก็เป็นสิทธิ์ ไม่สามารถบังคับความคิดใครได้ เหตุผลของโซเชียลก็ไม่มีในกฎหมาย และส่วนตัวไม่ได้รู้สึกน้อยใจ หรือท้อใจในการทำงาน เพราะทำงานตามกระบวนการ แต่หากตรวจสอบพบว่า มีการกระทำหรือเคลื่อนไหวที่เป็นขบวนการที่มีเจตนากล่าวหา หรือกลั่นแกล้ง จะดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน