กลุ่มคนร้ายซุ่มยิง ตชด. ดับ ที่ ต.ธารโต จ.ยะลา

กลุ่มคนร้ายทำวัตถุระเบิดปลอม ลวงให้ จนท.ไปเก็บกู้ ก่อนซุ่มยิง พรุนทั้งร่าง เหตุเกิดที่ ต.ธารโต จ.ยะลา

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 28 ม.ค. 62 ร.ต.ท.จิรายุ ผ่องอำไพ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ธารโต จ.ยะลา รับแจ้งเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนถูกคนร้ายซุ่มยิงเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านศรีท่าน้ำ หมู่ 4 ต.ธารโต จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.ท.กรกช พันธรักษ์ รอง ผกก.ป.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจรุดศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10

เมื่อมาถึงบ้านปูยุด หมู่ 1 ต.ธารโต พวกคนร้ายได้วางถังแก๊สปิกนิกไว้บริเวณคอสะพาน ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด.ตรวจสอบแล้วภายในเป็นดินทราย ไม่มีวัตถุอันตรายแต่อย่างใด หลังจากนั้นจึงได้เดินทางต่อไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพ ด.ต.พิรุณรัตน์ พุทธศฺิริ ผบ.กก.ฉก.ตชด.44 จ.ยะลา ปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ร.ร.บ้านศรีท่าน้ำ ถูกยิงถล่มด้วยปอาวุธปืนสงคราม เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ซูซูกิ สีทองดำ หมายเลขทะเบียน คษม 456สงขลา

นอกจากนั้นยังพบว่า เสื้อเกราะกันกระสุน และอาวุธปืนเอ็ม.16 ตลอดจนปืนพกประจำกายของ ด.ต.พิรุณรัตน์ ถูกคนร้ายเอาไปทั้งหมด

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ด.ต.พิรุณรัตน์ พุทธศิริ ทำหน้าที่ รปภ.ประจำ รร.บ้านศรีท่าน้ำ พื้นที่เกิดเหตุ ก่อนหน้านั้นได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณริมถนนเขตติดต่อบ้านบือซู ต.บันนังสตา จึงได้ขับขี่รถ จยย.ออกไปตรวจสอบเพียงลำพัง

ปรากฏว่าพวกคนร้ายได้ดักซุ่มอยู่ได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่ม เป็นเหตุให้ ด.ต.พิรุณรัตน์ พุทธศิริ ถูกกระสุนปืนตกจากรถ จยย.เสียชีวิต แล้วช่วยกันถอดเสื้อเกราะ ปลดเอาอาวุธปืนเอ็ม.16 และอาวุธปืนพกประจำกายพาหลบหนีไป ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่พยายามสร้างสถานการณ์
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ได้ทำการปิดล้อมพื้นที่ ติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างกระชั้นชิด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นลักษณะภูเขา ป่ารก มีเส้นทางเชื่อมต่อบ้านบือซู บ้านจาเราะแป และบ้านบัวทอง ในพื้นที่ อ.ธารโต

คาดว่า คนร้ายไม่ต่ำกว่า 6-8 คน ปฏิบัติการณ์ในครั้งนี้ ใช้อาวุธครบมือ วางแผนอย่างดี ลอบวางวัตถุต้องสงสัย เพื่อล่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ จากนั้นได้ซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ หลังก่อเหตุได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีอย่างร็วดเร็ว ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ รอยต่อ อ.ธารโต