กองปราบ รวบ “ทหารเก๊” แชทหลอกสาวผ่านแอปหาคู่ เชิดรถยนต์หนี พบก่อเหตุเพียบ

ตำรวจกองปราบปราม จับกุมชายวัย 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับแอบอ้างเป็นทหาร หลอกเหยื่อสาวผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ เชิดรถยนต์หนี นำทรัพย์สินไปขายและจำนำ พบประวัติเคยก่อเหตุและถูกออกหมายจับลักษณะเดียวกันมาแล้ว 2 ครั้ง

เมื่อวันที่ 27 มี.ค.62 เวลาประมาณ 15.00 น. พ.ต.ต.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. ​ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายอนันตพล หรือต้น ทองวิเชียร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/159 ซ.สวนสยาม 11 แยก 14 แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร ​ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมาย ดังนี้

1. หมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 213/2558 ลง 10 เม.ย.2558 ซึ่งต้องหาว่ากระทำ ความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป (สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ)
2. หมายจับศาลแขวงนนทุบรี ที่ 96/2558 ลง 16 มี.ค.2558 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด ฐาน “ลักทรัพย์ผู้อื่น” (สภ.เมืองนนทบุรี)
3. หมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ 882/2559 ลง 15 ก.ค.2559 ซึ่งต้องหาว่ากระทำ ความผิดฐาน “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา นำเข้าสู่ระบบความพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลความพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้และนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอส์นิกหรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังหรือได้รับความอับอาย (สภ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์) สถานที่จับกุม บริเวณภายในซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 48 ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ส่ง สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

​เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 27 มี.ค.62 ได้มีผู้เสียหาย น.ส.เอ (นามสมมุติ) ได้มาขอให้ตำรวจ กก.2 บก.ป. ติดตามหารถยนต์ที่ นายต้นที่รู้จักกันผ่านทางแอปพลิเคชั่นหาคู่ โดยนายต้นอ้างว่าเป็นทหารประจำอยู่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งได้คบหากันเมื่อปลายเดือน ก.พ.62

ต่อมาวันที่ 21 มี.ค.62 ได้อ้างกับ น.ส.เอ ว่าจะนำรถยนต์ไปซ่อมและเอาไปขายเพื่อออกรถยนต์คันใหม่ให้ และได้ถอดแหวนเพชรของ น.ส.เอ ไปด้วย ต่อมา น.ส.เอ ไม่ต้องการขายและไม่ต้องการรถยนต์คันใหม่ จึงขอรถคืน แต่นายต้นบ่ายเบี่ยง และหากต้องการรถยนต์คืนต้องโอนเงินให้จำนวน 30,000 บาท แต่ถ้าไม่โอนเงินจะไม่ให้รถคืน น.ส.เอ จึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอก และเกรงว่ารถยนต์จะถูกลักไป จึงมาให้ตำรวจกองปราบช่วยติดตาม

เจ้าหน้าที่ บก.ป. ได้จัดชุดสืบสวนของ กก.2 บก.ป. ออกติดตามตรวจสอบพบว่า นายต้น มีชื่อจริงว่า นายอนันตพล ทองวิเชียร อายุ 45 ปี มีหมายจับและเคยถูกจับติดคุก จำนวน 2 ครั้ง เมื่อปี 2545 และ 2560 จากการตรวจสอบพฤติการณ์จะเป็นลักษณะเดียวกันกับที่ น.ส.เอ ถูกหลอกจะนำรถยนต์ไปซ่อมและเอาไปขายเพื่อออกรถยนต์คันใหม่ หรือจะขโมยทรัพย์สินอื่น โดยจะรู้จักกับเหยื่อผ่านทาง แอปพลิเคชั่นหาคู่ เช่น Pirch (พ.ศ.2545), SKOUT และตามเว็บไซต์หาคู่ต่างๆ โดยจะสร้างความน่าเชื่อถือว่าตนเองมีเงิน และจะโอนเงินให้ ในรูปแบบต่างๆ ให้กับเหยื่อ ​

จากการสืบสวนทราบผู้ต้องหาได้หลบมาอยู่ภายในซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 48 ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ และพบว่าผู้ต้องหากำลังจะขับรถที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านออกไป จึงแสดงตัวเป็นตำรวจเข้าจับกุม จากการตรวจค้น พบตั๋วจำนำจำนวนหลายรายการ จากการตรวจสอบพบว่าตั๋วจำนำแหวนเพชรอยู่ภายในกระเป๋าสตางค์ของนายต้น

โดยนายต้น ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าเป็นตั๋วจำนำที่นำแหวนเพชรของ น.ส.เอ ไปจำนำจริง และรับสารภาพอีกว่า ได้นำรถยนต์ของ น.ส.เอ ไปจอดอยู่บริเวณใกล้ๆ จึงได้พาตำรวจไป ตรวจสอบ จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นของ น.ส.เอ โดยนายต้นให้การรับสารภาพว่าได้เอารถมาจาก น.ส.เอ จริง และได้รู้จักกันผ่านทางแอบพลิเคชั่นหาคู่ ซึ่งตนอ้างว่าเป็นทหารเนื่องจากเคยเป็นทหารกองประจำการแต่ถูกปลดออกมาแล้ว

ส่วนตามหมายจับของ สภ.เมืองนนทบุรี และ ของ สภ.สำโรงเหนือ ให้การรับว่าได้นำรถของ ผู้เสียหายไปจำนำ ให้กับนายแป๊ะ ไม่ทราบชื่อจริง ส่วนหมายจับของ สภ.ท่าตะโก ได้รู้จักผู้เสียหายผ่านทางเว็บไซต์หาคู่ แต่ผู้เสียหายจับได้ว่า ตนมีภรรยาอยู่แล้วจึงได้ทะเลาะ จึงได้นำรูปภาพในลักษณะโป๊เปลือยโพสต์ไปยังเฟซบุ๊กเพื่อทำให้เสื่อมเสีย เนื่องจากมีสาเหตุโกรธเคืองผู้เสียหาย ​

นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังรับสารภาพอีกว่า กำลังจะเดินทางไปหาผู้หญิงที่ตนเองรู้จักผ่านทางแอบพลิเคชั่นหาคู่ โดยได้นัดไว้ที่โรงแรมตามสถานที่ต่าง ๆ อีก 3 แห่ง แต่ถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเชื่อว่ามีผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่ถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวอีกจำนวนมาก