Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ผลวินิจฉัยโดยสรุปของผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในสถานะหัวหน้าคสช. ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ เพราะเป็นตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งจากการเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทศเมื่อปี 2557 ใช้อำนาจ “รัฏฐาธิปัตย์” รัฐธรรมนูญฉบับ 60 รับรองอำนาจให้อยู่จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีใหม่

วันที่ 14 มี.ค. นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร พุทธศักราช 2560 ตามมาตรา 88 มาตรา 89 และมาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (15) หรือไม่

สืบเนื่องจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยและคณะ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ตรวจการ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2562 ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน พิจารณาเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญในกรณีดังกล่าวข้างต้น

ทั้งนี้โดยสรุป ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและวินิจฉัยร่วมกันแล้ว เห็นว่า ประเด็นปัญหาตามคำร้องเรียนอยู่ในหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่วนกรณีร้องเรียนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (หัวหน้าคสช.) “เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” อันมีลักษณะต้องห้ามมิให้เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (15) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 หรือไม่นั้น เห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยพิจารณา คำว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ซึ่งเคยบัญญัติไว้ในมาตรา 109 (11) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ปรากฎตามคำวินิจฉัยที่ 5/2543 โดยวินิจฉัยว่า

“…คำว่า “เจ้าหน้าที่รัฐ” …หมายความว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น ซึ่งมีสถานะ ตำแหน่งหน้าที่ หรือลักษณะงานทำนองเดียวกันกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้องถิ่น

โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้

  1. ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย
  2. มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติงานประจำ
  3. อยู่ในบังคับบัญชา หรือในกำกับดูแลของรัฐ
  4. มีเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทน ตามกฎหมาย…”

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญข้างต้น ย่อมมีผลผู้พันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระและหน่วยงานของรัฐ ตามมาตรา 211 วรรค 4 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่ให้ความหมายของคำว่า “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ซึ่งเป็นถ้อยคำเดียวกันกับที่บัญญัติไว้ในมาตรา 98 (15) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ว่า จะต้องมีสถานะ ตำแหน่งหน้าที่ หรือลักษณะงานทำนองเดียวกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะต้องมีลักษณะครบถ้วนทั้ง 4 ประการดังกล่าวข้างต้น

เมื่อพิจารณาถึงสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว แม้ว่า จะมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติงานประจำ โดยมีเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนตามกฎหมายก็ตาม แต่ตำแหน่งดังกล่าวได้รับแต่งตั้งโดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าคสช. บริหารราชการแผ่นดินตามประกาศแต่งตั้งหัวหน้าคสช. ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 ซึ่งมิใช่เป็นการได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย

หากแต่เป็นการได้รับแต่งตั้งที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ โดยคสช. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ตามประกาศคสช. ฉบับที่ 1 / 2557 เรื่องการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ ประกอบกับตำแหน่ง หัวหน้าคสช. มิได้อยู่ในบังคับบัญชา หรือในกำกับดูแลของรัฐ หากแต่เป็นตำแหน่งที่ใช้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ เพื่อรักษาความสบเรียบร้อยความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม

รวมถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเป็นความจำเป็นในช่วงที่จะต้องเปลี่ยนผ่านจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในประเทศไปสู่สถานการณ์ปกติ อันเป็นการเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทศในช่วงระยะหนึ่งจนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไป โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บทเฉพาะกาล มาตรา 265 ก็ยังคงให้การรับรองอำนาจนี้อยู่

โดยบัญญัติให้คสช. ยังคงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า คณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญ จะเข้ารับหน้าที่ แสดงให้เห็นว่า ตำแหน่งหัวหน้าคสช. มิได้มีสถานะ ตำแหน่งหน้าที่ หรือลักษณะงานทำนองเดียวกันกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ และมิไได้ลักษณะครบถ้วนทั้ง 4 ประกาศตามแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวข้างตัน ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าคสช. จึงมิได้มีสถานะเป็น “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ดังที่ผู้ร้องเรียนกล่าวอ้าง

ดังนั้นเห็นว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าคสช. มิได้มีสถานะเป็น “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ดังที่ได้พิจารณามาแล้วข้างต้น การที่ กกต. ประกาศรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่พรรคพปชร. เสนอ จึงเป็นการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ในมาตรา 13 และมาตรา 14 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561

และมิได้มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 และมาตรา 89 กรณีนี้จึงไม่มีเหตุที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครอง เพื่อพิจารณาวินิจฉัย ตามมาตรา 23 แห่ง พ.ร.ป. ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560

ดังนั้นผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงวินิจฉัยให้ยุติเรื่องร้องเรียน

ความหมายของคำว่า “รัฏฐาธิปัตย์” คลิกที่นี่ สถาบันพระปกเกล้า

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า