SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – “เอ็ม หลานอาม่า” ที่เคยก่อคดีอย่างโชกโชน ทั้งขับรถมินิชนนักศึกษา ขับรถปอร์เช่นชน จยย. ทำร้ายร่างกายภรรยาตั้งครรภ์จนแท้งลูก แต่ก็ไม่โดนติดคุก ล่าสุดกระทืบลุงวัย 66 จนสลบคาเท้า

วันที่ 20 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชลวิทย์ หิรัญชัชวาลย์ หรือ “เอ็ม” ฉายา “เอ็ม หลานอาม่า” เจ้าของธุรกิจรถยนต์มือสอง หลานอาม่า เจ้าเดิม ที่ก่อวีรกรรมเอาไว้มากมาย จนเกิดเป็นคำถามต่อสังคมว่า เหตุใดทำไมยังลอยนวล สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นไม่รู้จบ ทั้งที่ทำเรื่องราวเอาไว้ใหญ่โต หรือเป็นเพราะอำนาจเงินที่ทำให้หลุดพ้นไม่ติดคุกติดตารางรับโทษถึงทุกวันนี้

https://youtu.be/e37PHYwi2zI

วีรกรรมของ “เอ็ม” หลานอาม่า
– ปี 2555 ขับรถมินิคูเปอร์ ชน 4 นักศึกษา มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จนหนึ่งในผู้บาดเจ็บเกือบเป็นอัมพาต ผ่านไปกว่า 5 ปี ไร้การเยียวยา
– วันที่ 21 เม.ย. 60 ขับรถปอร์เช่ รุ่นเคย์แมน สีขาว เสียหลักชนรถจักรยานยนต์ มีคนเจ็บ 2 ราย ก่อนพุ่งขึ้นฟุตปาธ ชนต้นไม้
– วันที่ 23 ก.ค. 60 ทำร้ายร่างกายภรรยาที่ตั้งท้องได้ 2 เดือน จนบาดเจ็บสาหัส และลูกในท้องเสียชีวิต
– ล่าสุด ก.พ. 61 ก่อเหตุกระทืบคนแก่วัย 66 ปี จนสลบ

ปี 2555 ขับมินิคูเปอร์ ชน 4 นศ. ไม่ชดใช้ค่าเสียหาย
เริ่มที่วีรกรรมแรก ปี 2555 นายชลวิทย์ หิรัญชัชวาลย์ หรือ เอ็ม เคยมีคดีขับรถยนต์มินิคูเปอร์ชน 4 นักศึกษา พลเมืองดี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือ เอแบค จนหนึ่งในผู้บาดเจ็บเกือบเป็นอัมพาต ต้องผ่าตัดกระดูกสันหลังและรักษาตัวนานกว่า 6 เดือน ผ่านไปกว่า 5 ปี แต่ผู้เสียหายก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา ตามคำสั่งศาล ที่สั่งให้ชดใช้ 14 ล้านบาท และเมื่อทวงกลับบอกว่า “ไม่มีเงิน” โดย นางหงส์ แซ่ลี้ อาม่าของ นายชลวิทย์ ได้มอบเงินให้เพียง 10,000 บาท ทั้งที่รับปากว่าจะชดใช้ 300,000 บาท

21 เม.ย. 60 ขับปอร์เช่ ชนรถ จยย.
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 60 นายชลวิทย์ ขับรถปอร์เช่ รุ่นเคย์แมน สีขาว เสียหลักขึ้นชนรถจักรยานยนต์ที่มี นายจตุพล วรรทวี อายุ 34 ปี และ น.ส.กานตะ วิวาวงศ์ อายุ 35 ปี สัญชาติลาว สองสามีภรรยาที่ขี่รถจักรยานยนต์มา บาดเจ็บสาหัส จากนั้นพุ่งขึ้นฟุตปาธ และไปชนต้นไม้

23 ก.ค. 60 ทำร้ายเมียตัวเอง
ต่อมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Khun Shane Rajatabhaiboon” ออกมาโพสต์เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 60 บอกเล่าเรื่องราวที่น้องสาวของตน ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน ถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายจนอาการสาหัส ซึ่งคาดว่าคือ นายชลวิทย์ หลานอาม่า เจ้าเดิม

โดยเจ้าของโพสต์บอกว่า “น้องสาวถูกแฟนทำร้ายร่างกายทั้งที่กำลังท้องอยู่ 2 เดือน น้องสาวมีแผลฉีกเป็นรูที่ขมับใกล้คิ้วและตาด้านขวา แขนและนิ้วซ้ายมีอาการปวดจากการฟกช้ำ ส่วนเด็กในท้องเสียชีวิต และได้พาน้องสาวไปแจ้งความแล้ว รวมถึง เสี่ยเอ็ม ได้เอาเงินไปอีก 150,000 บาท พร้อมกับบอกว่า จะไม่คืนให้ ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา”

 

อาม่าไม่มีเงิน เรียก 20 ล้าน เอาฉันไปฆ่าดีกว่า

แต่หลังจากมีข่าวว่า นายชลวิทย์ ขับปอร์เช่ชนสองสามีภรรยา จึงปรึกษาทนายความ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป ขณะเดียวกัน อาม่า ของ ‘เสี่ยเอ็ม’ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “หากฟ้องศาลเรียกเงินจริง ก็คงไม่มีเงินพอจะไปชดใช้ให้ใครอีก เรียก 20 กว่าล้าน เอาฉันไปฆ่าดีกว่า ฉันจะไปเอาที่ไหน” จนทำให้เสี่ยเอ็มกลายเป็นที่รู้จักในนาม ‘เสี่ยเอ็ม หลานอาม่า’

ก.พ.61 ก่อเหตุกระทืบคนแก่วัย 66 ปี จนสลบ
ล่าสุดเดือน ก.พ.61 ทางเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ได้โพสต์ข้อมูล เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 61 ถึงพฤติกรรมล่าสุดของ นายชลวิทย์ โดยระบุว่า “คุณลุงคนนี้อายุเกือบ 70 จอดรถมอเตอร์ไซค์อยู่ดีๆ ในซอย ไอ้เอ็มหลานอาม่าสุดกร่าง ต่อยหน้าตอนลุงจอดมอเตอร์ไซค์ เท่านั้นไม่พอ พอลุงล้มก็ไปเตะปลายคาง จนลุงแน่นิ่งไปพักใหญ่ หนูอยู่ซอยเดียวกับมัน มันก่อความเดือดร้อนให้คนทั้งซอย ทุกคนรังเกียจมันมาก แต่ไม่มีใครกล้า เพราะบ้านมันรวย”

โดยในวันนี้ (20 ก.พ. 61) “ทีมข่าวเวิร์คพอยท์” ได้เดินทางไปที่บ้านของ นางหงษ์ เเซ่ลี้ อายุ 88 ปี อาม่าของ นายชลวิทย์ หิรัญชัชวาลย์ หรือ เอ็ม ภายในซอยวัดไทร แขวง บางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. เพื่อพูดคุยกับกรณีดังกล่าว จากการพูดคุย อาม่าอ้างว่าเธอเองไม่ได้เจอเอ็มมานานแล้ว ไม่รู้ว่าหลานชายไปก่อเรื่องอีก บอกไม่ขอยุ่งเกี่ยว ตนเองไม่มีอะไรจะให้แล้ว

แต่ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับพยานรายหนึ่ง คือ น.ส.เอ (นามสมมติ) เธอเล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดเวลาประมาณ 15.30 น. บริเวณท่าน้ำวัดไทร ลุงคนเจ็บชื่อลุงหมู ก็ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่ท่าน้ำปกติ จู่ๆ นายชลวิทย์ หรือเอ็ม ก็เดินปรี่มาต่อยลุงหมูจนสลบและยังกระทืบซ้ำอีก เธอก็งงว่าทำไมมาทำร้ายลุง ทั้งๆ ที่ลุงไม่ได้ทำอะไรให้ เธอเล่าต่อว่า นายเอ็มอ้างว่าลุงหมูจะขี่รถชนอาม่า

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า อาม่ายืนยันว่าไม่ได้เจอหลานชายมานานแล้ว และรู้ได้ยังไงว่าเป็นนายเอ็ม น.ส.เอ ก็ยืนยันว่าเมื่อวานนี้เธอเห็นชัดและจำได้ว่าคือนายเอ็ม เพราะคนแถวนี้รู้จักนิสัยของนายเอ็มดี จนไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยว

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอนันต์ เสนีวงค์ หรือ ลุงหมู อายุ 66 ปี เล่าให้ฟังว่า เขาเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป วันเกิดเหตุกำลังจะเข้าไปดูแลผู้สูงอายุภายในชุมชุนดังกล่าว ก็จอดรถ จยย. อยู่ๆ ก็ถูกต่อยจนสลบลงไปนอนกองกับพื้น แล้วก็ไม่รู้สึกตัวอะไรอีกเลย ตื่นมาอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลบางขุนเทียนแล้ว

ขณะที่ฟื้นขึ้นมายังไม่ทันได้สติ ก็เห็นชายคนนึงยกมือไหว้ตน พร้อมกับหญิงรายนึงนำเงิน 3,500 บาท พร้อมกับค่ารักษามาให้ ซึ่งเพิ่งมารู้ทีหลังว่าคือนายชลวิทย์ โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักมาก่อน และยืนยันว่าวันดังกล่าวก็ขี่รถมาจอดอยู่ดีๆ ไม่ได้เฉี่ยวใคร และยืนยันว่าวันนั้นไม่ได้เจออาม่าเลย อาการบาดเจ็บตอนนี้คือ บาดเจ็บที่คิ้วขวา ตาเขียวช้ำ และปากแตก เย็บทั้งหมด14เข็ม

ทั้งนี้ เขาเองก็อยากรู้เหตุผลที่นายเอ็มมาทำร้าย ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกัน โดยได้ปรึกษาญาติพี่น้องแล้ว ทีแรกว่าจะยอมความ แต่พอมารู้ว่านายเอ็มเคยก่อเหตุมาหลายครั้งแล้ว ก็คิดว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะอยากให้อีกฝ่ายสำนึกผิดและมาขอขมาตน

จากการพูดคุยกับญาติรายหนึ่งของลุงหมู เล่าให้ฟังว่า เธอได้ตามไปที่ รพ. ก็พบหญิงวัยกลางคนซึ่งอ้างว่านายเอ็มเป็นหลาน ได้นำเงินมาให้ลุงหมู ซึ่งขณะนั้นลุงหมูยังไม่มีสติ สักพักก็มีชายสูงอายุคนหนึ่ง คาดว่าจะเป็นพ่อของนายเอ็ม ได้มาต่อว่านายเอ็มในทำนองว่ามาก่อเรื่องต่อยคนแก่อีกแล้วเหรอ

ขณะนั้นนายเอ็มก็ยกมือไหว้ขอโทษลุงหมูเหมือนจะสำนึกผิด และก็มาช่วยประคองลุงหมู ญาติรายนี้กล่าวว่า ไม่อยากปล่อยให้นายเอ็มลอยนวล และอยากให้ได้รับโทษทางกฎหมาย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า