ประเด็นคือ – พ่อแม่นักเรียน ม. 3 ผู้เคราะห์ร้ายถูกรถชนเสียชีวิต ยังทำใจไม่ได้ต้องสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รัก เตือนให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ขับรถอย่าประมาท ส่วนจยย.และสองแถวคู่กรณีรุดขอขมาศพพร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัว
วันที่ 6 มี.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 4 บ.หัววัว ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายสุรัตน์ นิจิรัมย์ หรือ น้องทีม นักเรียนชาย ชั้น ม.3 โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่เคราะห์ร้าย ถูกรถจักรยานยนต์พุ่งออกมาจากซอยชลประทานโดยไม่จอดชะลอดูรถ จนเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของน้อง ซึ่งขับมาทางตรงและชิดซ้ายตามไหล่ทางมาตลอด จนเสียหลักล้ม ร่างของน้องกระเด็นเข้าไปกลางถนนถูกรถ 6 ล้อสองแถวโดยสารที่ขับตามหลังมากระชั้นชิด เหยียบทับซ้ำจนเสียชีวิตคาที่ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศงานศพต่างเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะนายทูล นิจิรัมย์ และนางนรินทร์ทิพย์ พล่าหาญ พ่อและแม่ของน้องทีม ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รักไปแบบกะทันหันกับอุบัติเหตุดังกล่าว ขณะที่เพื่อนโรงเรียนเดียวกันก็ได้เดินทางมาแสดงความอาลัยน้องทีมด้วย
นอกจากนี้ทางครอบครัวของคู่กรณีทั้ง 2 คันคือรถจักรยานยนต์ และรถสองแถว ก็ได้เดินทางมาร่วมงานศพและขอขมาศพ พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องทีม ด้วย ซึ่งบรรยากาศภายในงานศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โดยทางครอบครัวมีกำหนดจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพน้อง ช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ 7 มี.ค. ที่วัดในหมู่บ้าน
นายทูล และนางนรินทร์ทิพย์ พ่อแม่ของนักเรียน ม.3 บอกตรงกันว่ายังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกชายไปแบบกะทันหัน เพราะน้องทีม เป็นลูกคนเล็กและเป็นความหวังของครอบครัว ไม่คิดว่าจะมาจากไปเร็วแบบนี้ ส่วนเรื่องคดีความต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด เพราะตอนนี้ครอบครัวยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร ต้องรอให้เสร็จงานศพของลูกชายก่อน พร้อมชี้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชายเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับผู้ขับขี่รถต้องใช้ความระมัดระวังและไม่ประมาท เพื่อจะได้ไม่เกิดการสูญเสีย