“ครูอ๋อง” ถึงมือพนักงานสอบสวน ยันว่าจ้างจริง ทำไปเพราะรักเพื่อน ช่วยครูจอมทรัพย์

ประเด็นคือ – “ครูอ๋อง” รับ ว่าจ้างจริง เผยทำไปเพราะรักเพื่อน ช่วยครูจอมทรัพย์ ขณะพนักงานสอบสวนสอบครูจอมทรัพย์ต่อเป็นวันที่สอง ยังปากแข็ง ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ฝากขังพรุ่งนี้ผัดแรก

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะทำงานดำเนินคดีเอาผิดขบวนการรับจ้างรับผิดแทนครูจอมทรัพย์ ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ยังคงมีการสอบสวนต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 สำหรับ ครูจอมทรัพย์ หรือ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีสร้างพยานหลักฐานเท็จ ขอรื้อฟื้นคดี หลังอ้างเป็นแพะในคดีขับรถชนคนตาย

โดยวันนี้ ครูจอมทรัพย์ มีทนายความส่วนตัวเข้าร่วมการสอบสวนของคณะทำงานด้วย ซึ่งรายงานล่าสุดจากการสอบสวนทั้งวันที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาร่วมสอบสวนด้วยตนเอง ทางครูจอมทรัพย์ยังคงปฏิเสธทุกข้อหาที่ถูกตำรวจดำเนินคดี มี 2 ข้อหา คือ เบิกความเท็จต่อศาล และซ่องโจร

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ภาคเช้าจะมีการนำตัวครูจอมทรัพย์ไปฝากขังเป็นผัดแรก ที่ศาลจังหวัดนครพนม เพื่อรอกระบวนการสอบสวน ทำสำนวนส่งอัยการฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนมต่อไป นอกจากนี้ เรื่องการขอประกันตัว ครูจอมทรัพย์ พร้อมทนาย ยังไม่ได้มีการขอยื่นประกันตัวต่อทางพนักงานสอบสวน ต้องรอดูในขั้นตอนหลังฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม

ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.อ.เสฏฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สืบสวนนครพนม ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้นำตัว นายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคนสำคัญที่เป็นผู้บงการในคดีครูจอมทรัพย์ ได้เดินทางมาถึงสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม หลังมีการติดตามจับกุมตัวได้ในพื้นที่ กทม. ขณะหลบหนีออกจากบ้านพักในพื้นที่ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา จากนั้นได้คุมตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือรับทราบข้อกล่าวหาเพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

โดยในช่วงระหว่างที่ ครูอ๋อง หรือ นายสุริยา นวลเจริญ อายุ 55 ปี ได้เดินทางมาถึงกองบังคับการตำรวจ มี พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม มารอรับตัวขึ้นไปห้องสอบสวน ซึ่งมีกองทัพสื่อมวลชนมารอสัมภาษณ์ โดยครูอ๋องเปิดเผยกับสื่อมวลชนเพียงว่า ยอมรับว่าเป็นคนว่าจ้างคนมาช่วยเหลือครูจอมทรัพย์จริง ซึ่งตนยอมรับทุกอย่าง ทั้งการว่าจ้าง นายสับ วาปี การหาทางช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ แต่ทำไปเพราะรักเพื่อนมาก ในเมื่อมีปัญหาทิ้งเพื่อนไม่ได้ ส่วนในเรื่องอื่นๆ ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ก่อนที่จะฝ่าวงล้อมของผู้สื่อข่าวขึ้นไปบนห้องสอบสวน

ส่วน พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีที่ได้มีการร่วมสอบสวนครูจอมทรัพย์ กับคณะทำงาน ว่า ในวันนี้ตนได้มาร่วมสอบสวนหารือวางแนวทางในการทำงาน ดำเนินคดีขบวนการรับจ้างทำผิดแทนครูจอมทรัพย์ และได้สอบสวนครูจอมทรัพย์ด้วยตนเอง เบื้องต้นทางเจ้าตัวได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ในฐานความผิดที่ตำรวจดำเนินคดี แต่ถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ส่วนหนึ่งได้ยอมรับว่า รับรู้กับเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับขบวนการว่าจ้างรับผิดแทน แต่ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย  ซึ่งทุกอย่างเอกสารหลักฐานอยู่ในสำนวนตำรวจทั้งหมด ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน ชั้นไต่สวน ในการขอรื้อคดี อยู่ระหว่างการตรวจสอบและรวบรวมหลักฐาน

“ส่วนแนวทางการดำเนินคดีว่าจะมีบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ขอเวลาในการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้การช่วยเหลือ หากพบมีหลักฐานเชื่อมโยง ก็จะดำเนินการเอาผิดทุกราย ขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ คดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญ ขอเวลาในการทำงาน” พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวทิ้งท้าย