SHARE

คัดลอกแล้ว

ป.ป.ส. – ตำรวจ เชื่อ รถตู้พยาบาลปลอม ลอบขนมาแล้วหลายครั้ง พร้อมนำของกลางมาตรวจชนิดสารเคมี เลขา ป.ป.ส.เผย “อาร์ต ต่ำเอี่ยว” สั่งการจากประเทศเพื่อนบ้าน 

วันที่ 12 ก.ย. 61 เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. กล่าวถึงกรณีการลักลอบขนยาไอซ์ 398 กิโลกรัม และ เคตามีน 80 กิโลกรัม มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท

ซึ่งเป็นของกลางที่ซุกซ่อนในรถตู้พยาบาล และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ พร้อมกับผู้ต้องหาอีก 7 คน ที่ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา มาตรวจสอบด้วยสารเคมี เพื่อยืนยันชนิดสารเสพติด พร้อมกับแถลงความคืบหน้าในคดีนี้

นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีนี้ได้ทั้งหมด 7 คน คือ นายตะวัน โพธิ์อุไร อายุ 22  ปี , นายศุภชัย ขาวจันทร์ อายุ 22 ปี , นายชาญชัย เพชรพราว อายุ 21 ปี , นายวิสันต์ น้ำเต้าทอง อายุ 43 ปี

นางสาวสุธิมา ชัยมูล อายุ 26 ปี , นายกำพล ชัยหัง อายุ 28  ปี และ นายเค้ก พรรณทวี อายุ 29 ปี  ทั้งหมดเป็นเครือข่ายยาเสพติดของอภิวิชญ์ สอาดดี หรือ อาร์ต ต่ำเอี่ยว อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่า ขณะนี้ที่หลบหนีคดีอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และยังคอยสั่งการในการค้ายาเสพติดในประเทศไทย

การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการสืบสวนเกาะติดเครือข่ายของนายอภิวิชญ์ โดยทราบว่านายอภิวิชญ์ได้สั่งการข้ามประเทศ ให้เครือข่ายใช้ใช้รถพยาบาลฉุกเฉิน หรือ AMBULANCE  เป็นพาหนะในการขนลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือลงไปพื้นที่ภาคกลาง เพื่ออำพรางและหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00 น. พบรถตู้พยาบาลฉุกเฉิน ทะเบียน ฮง-3869 กทม. ผ่านด่านทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ต่อมาในวันที่ 9 ก.ย. พบรถตู้คันนี้อยู่ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมีรถตู้พยาบาลฉุกเฉินอีกหนึ่งคัน ป้ายทะเบียน ฮท-3632 กทม. และ รถยนต์โตโยต้า ยาริส ติดป้ายทะเบียน กจ-5948 อุทัยธานี รออยู่ที่ ต.แม่สาย อ.แม่สาย

ช่วงเย็นวันเดียวกัน รถตู้พยาบาลฉุกเฉิน ทะเบียน ฮท-3632 กทม. ได้ขับนำรถพยาบาลฉุกเฉิน ทะเบียน ฮง-3698 กทม. มุ่งหน้าไปทาง อ.เมือง จ.พะเยา กระทั่งเวลา 19.00 น. ได้ขับมาถึงด่านตรวจแม่ต๋ำ จ.พะเยา เจ้าหน้าที่ด่านจึงเรียกตรวจค้นรถตู้พยาบาลฉุกเฉินทั้ง 2 คัน ปรากฏว่ารถตู้รถพยาบาลฉุกเฉิน ทะเบียน ฮง-3868 กทม. ซึ่งวิ่งตามหลังรถพยาบาลฉุกเฉินทะเบียน ฮท-3632 กทม. ประมาณ 50 เมตร ได้กลับรถวิ่งสวนทางจราจรหลบหนี

เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ติดตามไป พบผู้ต้องหาในรถตู้ได้โยนยาเสพติดทิ้งจากตัวรถตลอดเส้นทางที่หลบหนี จนรถเสียหลักขับไปชนรั้วบ้านในพื้นที่ ม.2 ตำบลดอกคำใต้ หลังจากนั้นผู้ต้องหาในรถ 3 คนได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามจับกุมไว้ได้ ก่อนจะตรวจค้นรถตู้พบยาไอซ์ซุกซ่อนในช่องลับ 398 ถุง พร้อมอาวุธปืน  9 มม. 1 กระบอก กระสุน 9 นัด ผู้ต้องหารับสารภาพว่าระหว่างหลบหนีได้โยนเคตามีนอีก 15 ถุง ตามรายทางที่ขับรถผ่านเจ้าหน้าที่จึงได้ปูพรมออกค้นหาของกลางจนครบ

พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5  เชื่อว่าเครือข่ายนี้ได้ใช้รถตู้พยาบาลฉุกเฉินขนลำเลียงยาเสพติดและหลุดรอดมาได้หลายครั้ง ซึ่งจะมีการสอบสวนขยายผล โดยคดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่มีการจับกุมการใช้รถตู้พยาบาลฉุกเฉินมาขนลำเลียงยาเสพติด หลังจากที่ก่อนหน้าที่พบว่าใช้รถบรรทุกขนลำเลียง

นายแพทย์วรัญญู ประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้ทางกระทรวงสาธารสุข โดยสำนักการแพทย์ฉุกเฉินจะหามาตรการป้องกัน โดยให้ทุกโรงพยาบาลหรือแม้แต่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยเอกชนต้องติดสติ๊กเกอร์ข้างรถ และคิวอาร์โค้ดเพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ

พร้อมบอกด้วยว่า ปกติแล้วรถพยาบาลจะไม่มีการรับส่งผู้ป่วยข้ามเขต ยกเว้นแต่เหตุฉุกเฉินเท่านั้น หากรถพยาบาลคันไหนวิ่งข้ามเขตหลายพื้นที่ ไม่มีสติ๊กเกอร์หรือคิวร์โค้ด ให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสงสัยและขอตรวจค้นไว้ก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตร.ไล่ล่า ยิงสกัด ‘รถพยาบาลขนยาบ้า’ กลางเมืองพะเยา ซุกกว่า 5 แสนเม็ด

มท.1 ลั่นเอาผิดรถพยาบาลดัดแปลงขนยาเสพติด

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า