คืบหน้า ! หญิงสติไม่ดี ใช้ไม้ตีคุณยายวัย 82 ปีดับ อ้าง ปอบเข้าสิง

ประเด็นคือ – หลังจากที่มีหญิงชราที่กล่าวหาว่า เพื่อนบ้านเป็นผีปอบ และคว้าเอาท่อนไม้กระหน่ำตีแบบไม่ยั้งมือ จนเพื่อนบ้านเสียชีวิตคาที่นั้น ล่าสุดทางญาติบอกไม่ติดใจอะไร เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นโรคประสาทนานกว่า 30 ปี 

หลังจากที่มีหญิงสูงอายุ คือ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 68 ปี ชาว อ.เมือง จ.ยโสธร มีลักษณะอาการทางประสาทก่อเหตุใช้ท่อนไม้ฟืนกระหน่ำตีที่บริเวณศีรษะและท้ายทอยของ นางสมบูรณ์แพง ธนาคุณ อายุ 82 ปี เพื่อนบ้าน แบบไม่ยั้งมือจเสียชีวิตคาที่

https://www.youtube.com/watch?v=d9GQKJN0Wd0&t=3s

โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้ตายมักจะด่าทอตนเองว่าเป็นคนบ้า 3-4 ครั้ง ประกอบกับผู้ก่อเหตุมีลักษณะอาการทางประสาทจึงมีความเชื่อว่า ผู้ตายเป็นผีปอบจึงอาศัยช่วงผู้ตายเผลอหยิบไม้ฟืนทุบเข้าที่ศีรษะของผู้เสียชีวิตหลายครั้ง

และภายหลังเกิดเหตุ นางเอ (ผู้ก่อเหตุ) ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหนยังคนเดินวนเวียนอยู่ในที่เกิดเหตุเนื่องจากมีบ้านพักอยู่ติดกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร จะเข้าจับกุมตัวได้พร้อมกับควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

หลังจากนั้นทางญาติของนางสมบูรณ์แพง (ผู้ตาย) ได้ช่วยกันนำศพไปจัดงานบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านพักของผู้ตายท่ามกลางความโศกเศร้าของลูกหลานและญาติพี่น้อง โดยทางญาติบอกก็ไม่ได้ติดใจหรือโกรธเคืองทางฝ่ายของผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นญาติกัน และเห็นว่าผู้ก่อเหตุมีลักษณะอาการทางประสาทมานานกว่า 30 ปี แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ส่วนทางด้าน นางบุรีรัตน์ สมสะอาด อายุ 44 ปี เป็นเพื่อนบ้านและเป็น อสม. บอกว่า ผู้ก่อเหตุมีลักษณะอาการทางประสาทมานานกว่า 30 ปี โดยมีบุตรชายคอยดูแลเลี้ยงดู และผู้ก่อเหตุต้องไปรับยามากินอยู่เป็นประจำ แต่ปกติที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นว่าจะไปก่อเหตุทำร้ายคนอื่นมาก่อน จึงไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นได้

ขณะเดียวกัน พันตำรวจเอกวิกรม ลียะวณิช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร บอกว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวนางเอ ผู้ก่อเหตุเอาไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เร่งทำการสอบสวนและสอบพยานแวดล้อมผู้เห็นเหตุการณ์พร้อมกับรอหนังสือยืนยันจากโรงพยาบาลอีกครั้งว่า ผู้ก่อเหตุมีลักษณะอาการทางประสาทจริงหรือไม่ เพื่อจะได้ส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป