คุมตัว ‘ถวิล’ อดีตอธิการฯ ลาดกระบัง รับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม หลังร่วมฉ้อโกงเกือบ 700 ล้าน

ประเด็นคือ – ตำรวจกองปราบคุมตัวอดีตอธิการบดี สจล. พร้อมอดีต ผจก.ธนาคาร เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม หลังถูกศาลออกหมายจับ ฐานร่วมกันฉ้อโกงเป็นเงินเกือบ 700 ล้านบาท

วันที่ 14 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ถูกตำรวจกองปราบปรามควบคุมตัวมาสอบปากคำ ที่กองบังคับการปราบปราม ภายหลังจากถูกศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางออกหมายจับในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอมเป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์เป็นของตนโดยทุจริต ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

โดยนายถวิลกล่าวเพียงสั้นๆ ระหว่างถูกนำตัวไปฝากขังว่า ไม่ขอพูดอะไร แต่จะไปให้การในชั้นศาล นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังควบคุมตัว นายคงฤทธิ์ สิงห์นุโคตร หรือ จุง โคชิกะ อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุวรรณภูมิ ผู้ถูกกล่าวหาในคดีทุจริตยักยอกเงิน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มาดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม เบียดบังทรัพย์เป็นของตนเองโดยทุจริต ให้การสนับสนุนให้เจ้าพนักงานหน้าที่ละเว้นและปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยภายหลังจากปี 2558 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ส่งให้ตัวแทนเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน หลังจากผู้ต้องหาร่วมกับ นายทรงกลด ศรีประสงค์ ในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับเอกสาร ทำให้ สจล.ได้รับความเสียหายกว่า 689 ล้านบาท จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ

คดีนี้ตำรวจจับกุมตัวนายถวิลได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งย่านลาดกระบัง โดยนายถวิลได้รับทราบข้อกล่าวหาและให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา และไม่ให้การใดๆ ในชั้นจับกุม พร้อมขอจะไปให้การในชั้นศาล ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ตำรวจจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม โดยในส่วนของนายถวิลและนายจุง หลังสอบปากคำแล้วเสร็จจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางต่อไป

ล่าสุดตำรวจได้ควบคุมตัว นายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ อดีตผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีในความผิดเดียวกันกับนายถวิล

สำหรับคดีนี้เป็นอีกหนึ่งคดีที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ภายหลังจากตรวจสอบบัญชีของกลางและพบว่ามีความเสียหายดังกล่าว นอกเหนือจากความเสียหาย 1,600 ล้านบาท ที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้