จับคนจีนสวมชื่อในบริษัททัวร์ เผย จนท.ไทยให้ชี้ อยากสวมชื่อเข้าทะเบียนบ้านใคร

ประเด็นคือ- ตำรวจท่องเที่ยวกวาดล้างบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญ จับคนจีนสวมชื่อเป็นคนไทย มีชื่อในทะเบียนบ้านไทยโดยที่เจ้าบ้านไม่รู้เรื่อง ผู้ต้องหาเผย เจ้าหน้าที่อำเภอให้ชี้ได้เลย อยากเอาชื่อเข้าทะเบียนบ้านใคร 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (3 ต.ค. 60)  ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว กองกำกับการ 1 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ฉันทวรลักษณ์ รอง ผบช.ภ.6, พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ รอง ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.ดุสิต วาลีประโคน รอง ผกก. 1 บก.ทท. 1, พ.ต.ต.สมัชญ์ บำรุงชาติ สว.กก.ทท. 1

ร่วมกันแถลงการจับกุม นายวัฒนา แก้ววิชิต ตามหมายศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 51/2560 และ หมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ที่404/2560 ในข้อกล่าวหา แจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอบัตร, ทำ ใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทำการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อ หรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้าน หรือ เอกสารทะเบียรราษฎร์อื่นโดยมิชอบ, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 361/64 ซอย 20 มิถุนา แยก 9 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ซึ่งผู้ต้องหาเป็นชาวจีนมณฑลไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เข้ามาประเทศในปี 2527 โดยชื่อเดิมคือ นายเฉินเหลียง และมีการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านเลขที่ 26 หมู่ 12 ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี โดยใช้ชื่อนายวัฒนา แก้ววิชิต เกิดวันที่ 7 เม.ย. 12 บิดาชื่อนายฉลอง แก้ววิชิต และมารดาชื่อนางประสิทธ์ แก้ววิชิต มีน้องชายชื่อนายปัญญา แก้ววิชิต ผู้ต้องหารายนี้ ได้เริ่มทำบัตรประชาชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 38 ณ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี

จากการสอบสวนนางประสิทธิ์และนายปัญญา ให้การยืนยันว่า ไม่รู้จักนายวัฒนามาก่อน และไม่ทราบว่ามีบุคคลดังกล่าวมาอยู่ในทะเบียนบ้านได้อย่างไร และนายประสิทธิ์ยืนยันว่ามีบุตรเพียงคนเดียวคือ นายปัญญา และตามวันเกิดของผู้ต้องหานั้น ตนเองยังไม่ได้สมรสแต่อย่างใด

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 53 ผู้ต้องหาได้ไปยื่นทำบัตรที่ อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและยื่นคำร้องขอออกหมายจับผู้ต้องหา และเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 58 ผู้ต้องหาได้ยื่นทำบัตรที่ อ.เมือง จ.เชียงราย โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและยื่นคำร้องขอออกหมายจับผู้ต้องหา

โดยนายวัฒนา หรือเฉินเหลียง ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนบริษัททัวร์ และนำนักท่องเที่ยวจีนมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยตนเองมีชื่อเป็นกรรมการและหุ้นส่วนภายในบริษัททัวร์จีนดังกล่าว โดยทางเจ้าที่ตำรวจจะทำการตรวจค้นบริษัทดังกล่าวเพื่อหาแนวทางเพิ่มเติมต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหา นายวัฒนา หรือเฉินเหลียง บอกว่า ทราบจากญาติที่ทำงานแถวสีลมว่ามีอำเภอ สามารถทำบัตรประชาชนให้ได้ จึงได้เดินทางไปที่ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เพื่อขอทำบัตรประชาชน โดยทางเจ้าหน้าที่อำเภอเป็นผู้ให้ตนเองเลือกว่าจะใส่ชื่อเข้าไปที่นามสกุลบ้านไหน

ส่วนเรื่องชื่อวัฒนานั้น ตนตั้งเองจากการชื่นชอบ นายวัฒนา ผู้โอบอ้อม หรือต๋อง ศิษย์ฉ่อย นักสนุกเกอร์ขวัญใจชาวไทย และชื่อของตนที่เป็นกรรมการบริษัททัวร์นั้น ตนได้รับการว่าจ้างจากเจ้าของบริษัทที่เป็นชาวจีน แค่ใส่ชื่อไว้ได้รับเดือนละ 28,000 บาท ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า เป็นเรื่องของความมั่นคงที่ชาวจีนมาลักลอบปลอมแปลงเอกสารเพื่อสวมสิทธิ์คนไทยในการจดทะเบียนบริษัททัวร์ ซึ่งจากการตรวจสอบมีอยู่จำนวนมาก ซึ่งจะทำการตรวจค้นเป้าหมายที่น่าสงสัยเพื่อปราบปรามกรณีทัวร์ศูนย์เหรียญ ส่วนเรื่องการทำบัตรประชาชน คงต้องประสานกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ว่าเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขณะนั้นมีใครร่วมกระทำความผิดบ้าง