จับชายหื่น ลวงเด็กออทิสติก 10 ปี ขืนใจ รับเสพยา-เมาไร้สติ

หนุ่มใหญ่ลวง ด.ญ. ออทิสติกวัย 10 ปี ไปข่มขืนที่กระท่อมนา รับสารภาพเสพยาและดื่มเหล้าขาดสติ แต่ไม่ได้ข่มขืน เพียงใช้มือและลิ้นกระทำชำเรา ตำรวจตามรวบได้คาห้องเช่า

วันที่ 14 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งจาก นางพร นามสมมติ อายุ 46 ปี ว่า ด.ญ.น้อย นามสมมติ อายุ 10 ปี ลูกสาว ซึ่งเป็นเด็กพิเศษออทิสติกได้หายตัวไป ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.30 น. ซึ่งเธอและญาติพี่น้องออกตามหาแต่ไม่พบ เกรงว่าจะถูกลักพาตัวไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงออกตามหา จนทราบเบาะแสว่า นายสมศักดิ์ ม่วงอร่าม อายุ 50 ปี ได้พา ด.ญ.น้อย ไป

จนต่อมา เวลาประมาณ 21.30 น. นางพร ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าลูกสาวกลับมาถึงบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ที่บ้านจอมเสด็จ หลังทราบว่าเป็นห้องที่ นายสมศักดิ์ เช่าอยู่ ก็ทำการตรวจค้น และพบว่าหัวเข่าทั้งสองข้างมีรอยถลอก ฟกช้ำ และอยู่ในอาการมึนเมาเล็กน้อย เมื่อสอบปากคำ นายสมศักดิ์ ก็ยอมรับว่าเป็นคนพาเด็กไปจริง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาสอบสวน พร้อมนำรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดง คันที่ใช้ก่อเหตุ และตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดในร่างกาย นอกจากนี้ ยังพา ด.ญ.น้อย ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลหนองคาย โดย ด.ญ.น้อย บอกว่าเจ็บสะโพก แต่เนื่องจากเป็นเด็กพิเศษจึงไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากนัก

จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ ที่สร่างเมาแล้ว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าไป 1 เม็ด กระทั่งเช้าวันที่ 14 มิ.ย. ได้ดื่มเหล้าขาว จนช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. ได้ขี่จักรยานยนต์จะไปหาเหล้าดื่มต่อกับญาติที่บ้านจอมเสด็จ ระหว่างนั้นเห็น ด.ญ.น้อย ยืนอยู่ข้างถนนเพียงลำพัง จึงชวนเด็กขึ้นจักรยานยนต์แล้วบอกจะพาไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเมื่อซื้อขนมเสร็จ ก็ได้พาเด็กขี่จักรยานยนต์ไปยังกระท่อมนา ท้ายหมู่บ้านจอมเสด็จ

จากนั้นจึงถอดเสื้อผ้าเด็กออกจะลงมือข่มขืน แต่ไม่สามารถสอดใส่อวัยวะเพศได้ จึงใช้มือกับลิ้นที่อวัยวะเพศของเด็กแทน แต่ไม่สำเร็จความใคร่ จึงหยุดเพราะฝนตกและ นายสมศักดิ์ ยังมีสภาพไม่สร่างเมาจึงหยุดพัก ซึ่งเมื่อฝนหยุดตกก็ได้พา ด.ญ.น้อย ขึ้นรถไปส่งที่ถนนปากซอยในหมู่บ้าน ห่างจากบ้านเด็กประมาณ 500 เมตร และให้เด็กกลับไปเอง จากนั้นจึงขี่รถกลับห้องเช่าและถูกตำรวจจับตัวได้ในที่สุด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษไว้ก่อน แล้วจะรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ประกอบการพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป