จับต่างด้าวต้องสงสัยฆ่าข่มขืนยายวัย 72 ปี

คนร้ายลากตัวหญิงชราที่อยู่บ้านคนเดียว เพราะสามีไปส่งลูกลงเรือประมงเข้าสวนปาล์ม คาดใช้ก้อนหินทุบจนเสียชีวิตก่อนข่มขืนแล้วหลบหนีไป สามีกลับมาบ้านหาไม่เจอจนได้สุนัขที่เลี้ยงไว้พาไปพบศพ ล่าสุด ตำรวจจับต่างด้าวที่เคยมาปรึกษาเรื่องลงเรือประมงได้กักตัวตรวจดีเอ็นเอ 

วันที่ 3 มี.ค. เวลา 16.00 น. ร.ต.อ. วิฑูรย์ เผือกวารี พนักงานสอบสวน สภ. ปากน้ำหลังสวน รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต ที่หมู่ที่ 1 ต.บางน้ำจืด อำเภอ หลังสวน จ.ชุมพร ตรวจสอบที่เกิดเหตุ กลางสวนปาล์มพบศพของหญิงชรา อายุ 72 ปี อาชีพรับจ้าง ในสภาพเปลือย ใบหน้าถูกทุบตีด้วยของแข็ง ที่บริเวณศีรษะเลือดไหลท่วมแห้งกรัง มีร่องรอยถูกข่มขืน จึงให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บรายละเอียดไว้

จากการสอบสวน สามีของผู้ตาย วัย 72 ปี อาชีพขับรถรับจ้าง ให้การว่าช่วงเช้าขับรถไปส่งลูกชาย วัย 41 ปี เพื่อออกเรือประมง เมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้านพักที่เช่าไว้อยู่กับครอบครัว ไม่พบภรรยา จึงออกตามหาไปในหลายสถานที่ในตำบลปากน้ำหลังสวน และโรงพยาบาลรวมถึงโทรศัพท์ไปสอบถามญาติสนิทก็ไม่ได้ข่าว

หลังเดินทางกลับมาที่บ้านพัก ได้พูดกับสุนัขสุนัขเพศผู้อายุ 1 ปีชื่อบุญนำ ว่าเห็นแม่หรือไม่ปรากฏว่า เจ้าบุญนำกระโดดลงจากบ้านและวิ่งเข้าไปในสวนปาล์ม เมื่อไปถึงกลางสวนปาล์มพบเห็นชิ้นส่วนของเสื้อผ้า สร้อยห้อยพระ ตกหล่นอยู่ตามระยะทาง เมื่อเข้าลึกเข้าไปในสวนปาล์มจึงพบร่างของภรรยานอนจมกองเลือดอยู่ภายในสวนปาล์มจึงแจ้งตำรวจ

พ.ต.อ. สัญญา พาตินธุ ผกก.สภ. ปากน้ำหลังสวน ระบุว่า เบื้องต้นได้คาดการว่า คนร้ายรายนี้น่าจะชื่อนายตะวันอายุ 37 ปี เป็นคนชาวมอญเข้ามาประกอบอาชีพรับจ้างอยู่ใกล้กับสวนปาล์มที่เกิดเหตุ คืนที่ผ่านมาได้เดินทางมาเพื่อปรึกษาของาน การลงเรือประมงกับลูกชายของครอบครัว และได้มีการดื่มเหล้า จนกระทั่งดึกผู้ตายจึงไล่ให้นายตะวันและน้องชายชาวมอญไม่ทราบชื่ออายุ 20 ปีกลับไปนอน

ต่อมาในช่วงเช้านายตะวันได้เดินทางมาที่บ้านพร้อมทั้งอ้างว่าจะนำพระเครื่องมาให้เช่าบูชาแต่ไม่มีใครสนใจหลังจากนั้น ผู้เป็นสามีได้ออกไปส่งลูกชายเมื่อกลับมาก็ไม่พบทั้งผู้ตายและนายตะวัน สันนิษฐานว่าหลังจาก สามีและลูกชายออกจากบ้านไป คนร้ายเห็นว่าผู้ตายอยู่บ้านเพียงลำพังจึงตรงเข้าฉุดลากเข้าไปสวนปาล์ม ใช้ก้อนหินทุบที่ใบหน้าจนแน่นิ่งแล้วลงมือข่มขืน ก่อนจะหลบหนีไป

ทั้งนี้ ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวนายตะวันได้แล้ว ในขณะที่หลบอยู่ที่บ้านเช่าสำหรับคนงานของเจ้าของสวนปาล์ม ข้างสวนปาล์มที่เกิดเหตุ ตรวจสอบร่างกายพบร่องรอยขีดข่วนตามร่างกาย จึงได้ควบคุมตัวไปไว้ที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน เพื่อตรวจหา DNA และจะได้ตามน้องชายของนายตะวันมาสอบสวน หาข้อเท็จจริงในสาเหตุการตายต่อไป

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนขวัญแก่ชาวบ้านในหมู่ที่ 1 ตำบลบางน้ำจืดและตำบลปากน้ำหลังสวนอย่างมากเนื่องจากไม่เคยเกิดเหตุร้ายเช่นนี้ในพื้นที่นี้มาก่อนและที่น่าสลดใจคือ ครอบครัวดังกล่าวยากจนมาก กระทั่งเงินที่จะใช้ในการทำศพก็ยังไม่มี ซึ่งล่าสุด นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการ จ.ชุมพร สั่งการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว