จับผู้ต้องหาสะเดาะกุญแจมือกลางสี่แยก หลังหนีได้กว่าเดือน

ตำรวจอุดรธานีติดตามจับผู้ต้องหาค้ายาบ้าได้แล้ว หลังสะเดาะกุญแจมือกระโดดรถตำรวจหลบหนีระหว่างไปศาล ก่อนไปกบดานที่หนองคาย อ้างหักหลังพวกพาตำรวจไปขยายผลไม่กล้าเข้าคุกกลัวโดนเอาคืน

วันที่ 19 ม.ค. เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.อดุลย์ ขวัญมั่น ผกก.สภ.บ้านเทื่อม จ.อุดรธานี นำกำลังจับกุม นายพเยาว์ หรือเยา เพ็ชรโคตร อายุ 28 ปี อ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.373/2561 ลงวันที่ 20 ธ.ค. 61 ข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และตามหมายจับศาลแขวงอุดรธานี ที่ จ.2/2562 ลง 8 ม.ค.62 ความผิดข้อหา หลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวน

พ.ต.อ.อดุลย์ เปิดเผยว่า เช้าวันที่ 17 ธันวาคม ขณะที่ ร.ต.อ.พุฒิพงษ์ วรแสน รอง สว.สอบสวน สภ.บ้านเทื่อม และ ด.ต.อุทัย เสนาวงษ์ ผบ.หมู่ สส.สภ.บ้านเทื่อม ควบคุมตัวนายพเยาว์ ผู้ต้องหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย 20 เม็ด ขึ้นรถกระบะที่มีห้องควบคุมร่วมกับผู้ต้องหาอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน ไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลจังหวัดอุดรธานี ขณะรถติดสัญญาณไฟแดงที่สี่แยกหนองสำโรง ถ.อุดรธานี-หนองสำโรง เขตเทศบาลเมืองหนองสำโรง อ.เมือง จ.อุดรธานี นายพเยาว์ได้สะเดาะกุญแจมือ และเปิดกระจกช่องหน้าต่างด้านขวาห้องควบคุมแล้วมุดออกมา ก่อนวิ่งหลบหนีไปทางบ้านบ่อสร้าง ต.บ้านเลื่อม และหายตัวไปเป็นเวลา 1 เดือน

ตำรวจสืบสวน ภ.4 และตำรวจสืบสวน สภ.บ้านเทื่อม ได้ออกสืบสวนติดตามตัวนายพเยาว์ พร้อมกับรวบรวมหลักฐาน พยาน ขออนุมัติออกหมายจับ จนทราบว่านายพเยาว์ หลบหนีไปอยู่ตามกระท่อมนา ท้ายบ้านนากอ ต.บ้านฝาง อ.สระใคร จ.หนองคาย จึงได้นำกำลังออกไปสืบสวน โดยใช้เครื่องร่อนพารามอเตอร์ขึ้นบินกดดัน และจับกุมนายพเยาว์ ได้ขณะหลบซ่อนในกระท่อมนาควบคุมตัวกลับมาทำการสอบสวน

รถคันที่ผู้ต้องหาสะเดาะกุญแจและเปิดหน้าต่างหลบหนี

นายพเยาว์ ให้การรับสารภาพว่า ที่ต้องหลบหนีขณะถูกควบคุมตัวไปส่งศาล เนื่องจากไม่อยากติดคุกเพราะว่าตัวเองหักหลังแก๊งค้ายาพาตำรวจขยายผลจับผู้ค้าได้อีก 2 คน กลัวว่าเมื่อต้องเข้าไปในเรือนจำแล้วจะไม่ปลอดภัย จึงอาศัยช่วงที่รถควบคุมตัวติดสัญญาณไฟแดงสะเดาะกุญแจมือ เปิดกระจกหน้าต่างห้องควบคุมด้านขวา มุดออกมาและวิ่งหลบหนีทางไปบ้านบ่อสร้าง หลบซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าหนา ซึ่งตอนนั้นเห็นตำรวจจำนวนมากออกติดตามจับ

ตนเองนอนหลบซ่อนในพงหญ้าจนถึงเช้าอีกวัน และเห็นว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามแล้วจึงเดินออกมาจากที่หลบซ่อน ว่าจ้างรถจักรยานยนต์ให้ไปส่งที่บ้านงิ้ว ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ที่อยู่ใกล้กับบ้านของตนเอง หลังจากนั้นได้ไปอาศัยหลบซ่อนตัวอยู่ตามกระท่อมนาตามที่ต่างๆ ก่อนจะโทรศัพท์ให้ภรรยาที่อยู่ที่ อ.สระใคร จ.หนองคาย ให้มารับ และได้ไปหลบซ่อนตัวนอนอยู่ตามกระท่อมนา กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุม