Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – กรมศุลกากร จับกุมสินค้าไม้หวงห้ามส่งออก อาทิ ไม้ประดู่ ไม้ชิงชัน ไม้พะยูง และสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มูลค่ารวมกว่า 240 ล้านบาท ที่ จ.ชลบุรี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มีนาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร พร้อมด้วย นายวรวุฒิ วิบูลย์ศิริชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมสินค้าไม้หวงห้ามลักลอบส่งออก ประเภทไม้ประดู่แปรรูป ไม้ประดู่ท่อน ไม้ชิงชันแปรรูป และไม้พะยูงแปรรูป บรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 6 ตู้ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และจับกุมสินค้าผ่านแดนไป สปป.ลาว ที่ตรวจพบเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ วัตถุลามก บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ประกอบ มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 140 ล้านบาท

นายชูชัย กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อจำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งขจัดอิทธิพลกลุ่มขบวนการลักลอบค้าของเถื่อน ที่อาจมีการลักลอบนำสินค้าภายในประเทศ ซึ่งต้องขออนุญาตจากหน่วยงานอื่นที่รับผิดชอบ ส่งออกไปยังประเทศต่างๆ รวมถึงสินค้าผ่านแดนที่ไม่ปฏิบัติกฎหมายศุลกากรหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร

ต่อมา เจ้าหน้าที่ศุลกากร สำนักสืบสวนและปราบปราม นำโดย นายณัฐวุฒิ สระฏัน ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 1 และ นายสุรัตน์ เรืองประยูร หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามที่ 3 ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบใบขนสินค้านำเข้า-ส่งออก และใบขนสินค้าผ่านแดนเป็นพิเศษ จึงพบสิ่งผิดปกติและมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงได้ประสานงานกับฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อร่วมทำการตรวจสอบสินค้าของขบวนการลักลอบส่งออกไม้หวงห้าม ประเภทไม้พะยูง ไม้ชิงชัน และไม้ประดู่ จำนวน 6 ใบขนฯ รวม 6 ตู้ โดยสำแดงชนิดสินค้าเป็นสับปะรดในน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง มะม่วงชิ้นในน้ำเชื่อม เมทัลชีส และแป้งข้าวเจ้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าตู้สินค้าดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกันกับขบวนการลักลอบส่งออกไม้หวงห้าม ที่กรมศุลกากรจับกุมที่ท่าเรือกรุงเทพ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ขบวนการนี้มีพฤติการณ์ใช้วิธีการปลอมแปลงเอกสารของผู้ส่งออกรายอื่นๆ ที่เป็นผู้ส่งออกกลุ่มผลไม้กระป๋องหรือสินค้าอื่นๆ ที่เป็นกลุ่มสินค้านอกเหนือจากกลุ่มเสี่ยง ที่มีการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์ (X-Ray) โดยก่อนนำตู้โหลดขึ้นเรือเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบพบว่า ทั้ง 6 ตู้ เป็นไม้แปรรูปและไม้ท่อนบรรจุอยู่ทั้งหมด จึงประสานให้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ร่วมตรวจสอบชนิดของไม้ พบเป็นไม้ประดู่ ไม้ชิงชัน และไม้พะยูง จำนวนประมาณ 1,884 แผ่น/เหลี่ยม/ท่อน มูลค่าสินค้ารวมประมาณ 19 ล้านบาท และหากส่งถึงปลายทางจะมีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านบาท

ไม้ที่ทำการตรวจยึดได้ในครั้งนี้จัดเป็นไม้หวงห้าม ประเภท ก. ตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2530 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6, 7 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 กรณีดังกล่าว ผู้ส่งออกสำแดงรายละเอียดสินค้าเป็นเท็จ จึงเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จ ส่งออกสินค้าโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น อันเป็นความผิดตามมาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และฝ่าฝืนประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้ไม้เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2555 ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง (2) และมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.การส่งออกไปนอก และการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 และมาตรา 48, 73 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าต้องห้ามผ่านแดนไปสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 1 ตู้ โดยสำแดงรายละเอียดสินค้าเป็นของใช้ในครัวเรือนใหม่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่า ตู้สินค้าดังกล่าวเป็นตู้สินค้าที่มีแหล่งที่มาเดียวกัน หรือเกี่ยวข้องกันกับตู้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ที่ทางกรมศุลกากรจับกุมได้เป็นจำนวนมากที่ท่าเรือกรุงเทพก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดตู้สินค้าดังกล่าวและดำเนินการขอเปิดตู้ ตรวจสอบร่วมกันกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสินค้าผ่านแดนไปสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งจากการตรวจสอบพบสินค้าไม่ตรงสำแดง ประเภทรองเท้า ชุดสตรี นาฬิกาข้อมือ เครื่องสำอาง อะไหล่รถ เป็นต้น ซึ่งมีเครื่องหมายการค้าปลอมหรือเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น จำนวนรวมกว่า 130,000 ชิ้น

กรณีนี้มีความผิดฐานส่งของผ่านแดน ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมหรือเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 105 มาตรา 106 มาตรา 202 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 บัญชีท้ายประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักรและยังตรวจพบ “วัตถุลามก อวัยวะเพศชายเทียมทำด้วยยางซิลิโคลน” กรณีนี้มีความผิดฐาน นำสินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร นำสินค้าที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชนนำผ่านราชอาณาจักร และมิได้สำแดงรายการสินค้าในใบขนสินค้าผ่านแดน โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น

อีกทั้งยังตรวจพบ “บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์ประกอบ และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า” ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 105 มาตรา 106 มาตรา 202 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องสินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 บัญชีท้ายประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องสินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร รวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 140 ล้านบาท

สำหรับการปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงตามพระราชบัญญัติศุลกากร มีการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นตามนโยบายของกรมศุลกากร เพื่อเป็นการขจัดอิทธิพลและการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบของกลุ่มขบวนการค้าของเถื่อน ซึ่งของกลางในครั้งนี้รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 240 ล้านบาท

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า