รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลงจับเอเย่นต์ค้ามนุษย์ 3 ราย ล่อลวงเด็กหญิงชาวลาว อายุต่ำกว่า 18 ปี บังคับค้าประเวณี โดยเปิดเป็นร้านคาราโอเกะบังหน้า
วันที่ 9 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เข้าสอบปากคำ น.ส.หฤทัย ธรรมมิตร หรือ ปู อายุ 41 ปี น.ส.วัลลี กองเกิน หรือ ลี อายุ 32 ปี และ นายสมบูรณ์ บุญอยู่ หรือ บุญ อายุ 57 ปี หลังร่วมกันล่อลวงจัดหาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 22 คน เป็นชาวไทย 11 คน และชาวลาว 11 คน ไปค้าประเวณีจนถูกศาลจังหวัดหล่มสัก ออกหมายจับในข้อหากระทำการค้ามนุษย์ โดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี และบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี และมั่วสุมในสถานการณ์ค้าประเวณี เพื่อประโยชน์ในการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากมูลนิธิพิทักษ์สตรีให้เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือเด็กและหญิงสาว สัญชาติลาว อายุต่ำกว่า 18 ปี และมากกว่า 18 ปี ถูกหลอกมาค้าประเวณี ตำรวจสืบสวนจนพบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ร่วมกันจัดหาเด็กและเยาวชนมาค้าประเวณี โดยเปิดเป็นร้านคาราโอเกะบังหน้า โดยจะนำเสนอเด็กในร้านผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Bee talk ตำรวจจึงวางแผนติดต่อล่อซื้อก่อนเข้าจับกุม โดยสามารถช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกล่อลวงมาบังคับค้าประเวณีได้ 5 คน เป็นชาวไทย 1 คน ชาวลาว 4 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดแยกเหยื่อ รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้หลอกพามาเป็นแม่บ้านทำงานบ้าน โดยจะมีค่านายหน้า และทำพาสปอร์ตในราคา 15,000 บาท จากนั้นจะส่งต่อให้กลุ่มจัดหาเด็กไปขายบริการ ก่อนจะถ่ายรูปเด็กเก็บไว้ เพื่อให้ลูกค้าเลือก โดยคิดราคา 1,500-2,000 บาท ต่อคน จากนั้นจึงจะส่งเด็กให้ลูกค้า โดยจะหักค่านายหน้าจากเด็ก 500 บาท
ขณะเดียวกันตำรวจได้ปิดเว็บไซต์ที่มีลักษณะการประชาสัมพันธ์ ในการค้าบริการทางเพศ และจะจับกุมเจ้าของเว็บไซต์ พร้อมเร่งขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่ซื้อบริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ด้วย และฝากเตือนเจ้าของร้านคาราโอเกะที่เปิดบังหน้า และมีการนำเด็กมาค้าประเวณีให้หยุด เพราะตำรวจมีข้อมูล โดยเฉพาะในพื้นที่อุดรธานี และขอนแก่น
ขอบคุณภาพจาก : touristpolice