จำคุกตลอดชีวิต ! เก่ง กับกิ๊กสาว รวมกันฆ่าหมอปอ ว่าที่เจ้าสาว

ศาลพิพากษาตัดสินให้ประหารเก่ง ว่าที่เจ้าบ่าว กับกิ๊กนายเก่ง รวมกันฆ่าหมอปอ แต่ทั้งสองยอมรับสารภาพ จึงลดให้เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต

สืบเนื่องมาจากคดีสะเทือนขวัญ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 60 ภายในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสลุย ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.นนทิญา ครัวจัตุรัส หรือหมอปอ ตำแหน่งเจ้าพนักงานทันตกรรมสาธารณะสุข ถูกอาวุธปืนยิงเข้าบริเวณหน้าออกนอนจมกองเลือดอยู่ภายในห้องพักชั้น 2

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สืบสวนออกติดตามตัวคนร้ายรายนี้ จนสามารถจับกุมตัว นายรณชัย ปานชาติ หรือ เก่ง ซึ่งเป็นว่าที่เจ้าบ่าว ผู้ก่อเหตุได้

โดยเบื้องต้น นายเก่งสารภาพ ไม่ต้องการที่จะเข้าพิธีแต่งงานกับผู้ตาย จึงได้วางแผนทำทีเป็นคนร้ายเข้ามางัดบ้าน แต่แผนแตก กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ในที่สุด และเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัว น.ส.นฤมล ช่วยสมบัติ ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของนายเก่ง และเป็นคนไปหาซื้ออาวุธปืนมาให้ รวมถึงเป็นคนที่ขับรถไปก่อเหตุ

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น วันที่ 28 ก.ย. 61 นายเชาว์ นางสมศรี และนายบำรุง ครัวจัตุรัส ซึ่งเป็นพ่อแม่ และพี่ชาย ของนางสาวนนทิยา ครัวจัตุรัส หรือหมอปอ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดี นายรณชัย ปานชาติ และนางสาวนฤมล ช่วยสมบัติ สองผู้ต้องหา ร่วมกันฆ่า นางสาวนนทิยา ครัวจัตุรัส หรือหมอปอ

ศาลได้ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ตัดสินให้จำเลยที่ 1 และ 2 คือ นายรณชัยและนางสาวนฤมล กระทำความผิด โดยฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน โดยให้โทษประหาร แต่เนื่องจากทั้งสองยอมรับข้อกล่าวหา และให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ศาลจึงลดหย่อนโทษให้เป็นจำคุกตลอดชีวิต

นายบำรุงเล่าให้ว่า ในช่วงที่พนักงานสอบสวนกำลังทำงานอยู่นั้น ทางจำเลยคนที่ 2 หรือนางสาวนฤมล ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด แต่ด้วยหน่วยสืบสวนของภูธรจังหวัดชุมพร ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ได้หลักฐานที่มากพอที่จะมัดตัวจำเลยที่ 2 ได้อย่างแน่ชัด

โดยนายเก่ง หรือจำเลยที่ 1 ไม่สามารถที่จะฆ่าหมอปอได้ด้วยตัวคนเดียวเนื่องจากไม่สามารถขับรถได้ อีกทั้งอาวุธปืนทางด้านของจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดหามาให้ โดยวางแผนกันว่าจะเข้าไปฆ่าหมอปอ และกวาดเอาทรัพย์สิน เพื่อที่จะหลบหนีงานแต่ง

ซึ่งเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 61 ทางศาลได้เรียกพยานฝ่ายหมอปอมาสอบปากคำ และซักถามในเรื่องต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลและสรุปสำนวนคดี โดยเบิกตัวผู้ต้องหาจำเลยที่ 1 และ 2 มาด้วย

ทั้งคู่ตอนอยู่ในชั้นสอบสวนได้ให้การภาคเสธมาโดยตลอด แต่ก็ต้องจำนนด้วยหลักฐานในชั้นศาล จึงยอมรับ และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ศาลฟัง ทำให้ศาลลดหย่อนโทษเหลือเพียงแค่จำคุกตลอดชีวิต

ซึ่งทางครอบครัวก็รู้สึกพอใจกับคำตัดสิน แม้จะไม่ถึงประหารชีวิตก็ตาม แต่ก็ทำให้ทั้งสองได้ชดใช้กรรมที่ก่อ ต่อไปทางครอบครัวก็จะเรียกสินไหมทดแทนในส่วนเงินเดือนของหมอปอ จำนวนเงิน 7ล้านบาท และเงินที่ลงไปกับการเตรียมพร้อมจัดงานแต่งอีก 9 แสนบาท ซึ่งต้องรอว่า ด้านจำเลยจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลหรือไม่ โดยทางศาลให้ระยะเวลา 30 วัน นับจากวันนี้เป็นต้นไป