ชาวบุรีรัมย์วอนอย่าด่วนตัดสิน 3 ด.ช.ถูกกล่าวหารุมอนาจาร ป.1 เผยเด็กเลียนแบบคลิป

ชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ วอนอย่าด่วนตัดสิน 3 ด.ช. ถูกกล่าวหารุมอนาจาร ด.ญ. ป.1 ด้าน หน.บ้านพักเด็กเผย เป็นพฤติกรรมคึกคะนองเลียนแบบจากคลิปการ์ตูน ไม่ได้รุนแรงตามที่เป็นข่าว

วันที่ 27 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีเพจโพสต์เรื่องราวที่น่าสะเทือนใจ ว่ามีเด็กชาย ป.3 จ้างเด็กชาย ป.5 ให้ลากเด็กหญิง ป.1 มารุมข่มขืนกันริมสระน้ำในหมู่บ้าน และปิดท้ายด้วยการพยายามจับเด็กหญิงกดน้ำเพื่อฆ่าปิดปาก เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว พบว่า มีผู้ปกครองของ ด.ญ. ชั้น ป.1 เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ว่า เด็กหญิงได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง และพนักงานสอบสวนก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมบันทึกภาพเป็นหลักฐาน ทั้งได้ซักถามรายละเอียดเบื้องต้นจากยายของ ด.ญ. ชั้น ป.1 ที่ให้ข้อมูลว่าเห็นเหตุการณ์ด้วย

ล่าสุด พ.ต.อ.สุชาติ ละลี ผู้กำกับการ สภ.กระสัง ระบุว่า หลังจากได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้ปกครอง ด.ญ. ชั้น ป.1 ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อม และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงร่วมกับทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กชายที่ถูกกล่าวหาครบทุกปากแล้ว เบื้องต้นพบว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นจริง แต่เหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงตามที่เป็นข่าว หรือมีการแชร์ในโลกโซเชียล เป็นเพียงการเล่นกันของเด็กด้วยความคึกคะนองและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้มีการกระทำรุนแรงหรือบังคับขืนใจ และไม่ได้มีการจ้างฆ่าปิดปากตามที่ระบุ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ก็จะได้หารือกับทีมสหวิชาชีพเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพราะทั้งผู้ถูกกล่าวหาและผู้ถูกกระทำยังเป็นเด็ก ซึ่งต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ยังต้องรอผลตรวจร่างกายยืนยันจากแพทย์ในอีกทางหนึ่งด้วย

ด้าน น.ส.กุลจิรา โฉบไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เบื้องต้นแม้จะยังไม่พบร่องรอยการล่วงละเมิด แต่ก็ต้องรอผลตรวจยืนยันจากแพทย์อีกครั้ง แต่จากข้อมูลการสอบปากคำของทีมสหวิชาชีพ ได้ข้อมูลว่าเป็นเพียงการเล่นกันของเด็ก ที่เลียนแบบพฤติกรรมมาจากคลิปการ์ตูน ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และมีการพูดว่าจะให้เงิน 35 บาท แก่ ด.ญ. ป.1 เพื่อให้ทำเลียนแบบคลิปให้ดู แต่ยังไม่มีการจ่ายเงินกันจริง และไม่ได้มีการจ้างวานให้ฆ่าปิดปากตามที่เป็นข่าวด้วย แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็อยากฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองควรจะดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นซ้ำอีก

ขณะที่ผู้นำชุมชนและชาวบ้านในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ได้ออกมาวิงวอนสังคมอย่าเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์ หรือกล่าวหาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะจะไม่เป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย ทั้งจะกระทบกับสภาพจิตใจเด็ก และทำให้ครอบครัวของเด็กได้รับความเสื่อมเสียด้วย ซึ่งส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริง อาจจะเป็นการเล่นกันของเด็กที่ซุกซนตามวัย ซึ่งปกติเด็กก็จะเล่นน้ำกันตามปกติอยู่แล้ว จึงไม่ควรจะไปแสดงความคิดเห็นจนเกินความจริง หรือตัดสินว่าใครผิดใครถูก เพราะไม่เป็นผลดีกับใครเลย อยากให้เห็นใจทั้งสองฝ่าย