ชี้ 2 คดีฆ่าหมู่ 9 ศพสะเทือนขวัญยะลา-นราธิวาส ฝีมือผู้ก่อเหตุรุนแรง

พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า

โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ระบุชัด 2 คดีสะเทือนขวัญ ยะลา-นราธิวาส เป็นฝีมือผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (14 มิ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยถึงจากกรณีเหตุการณ์คนร้ายได้ใช้อาวุธกราดยิงประชาชนเสียชีวิต 4 ราย เมื่อ 7 มิ.ย.61 ในพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส และกราดยิงประชาชนเสียชีวิตอีก 5 ราย เมื่อ 11 มิ.ย.61 ในพื้นที่อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังจากเหตุการณ์นี้มีความพยายามใช้สื่อสังคมออนไลน์บิดเบือนข้อเท็จจริง กล่าวหาว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐนั้น จึงขอชี้แจงว่าในคดีคนร้ายยิงราษฎรเสียชีวิต 4 ราย ในพื้นที่อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่สามารถเก็บหลักฐานเป็นปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 18 ปลอก จากการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่า ใช้ยิงมาจากอาวุธปืน 5 กระบอก ตรวจพบประวัติการก่อคดีสำคัญ 3 กระบอก รวม 9 คดี ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ประชาชนเสียชีวิต 8 ราย

โดยมีคดีสำคัญ เช่น คดียิงชาวไทยพุทธเสียชีวิต 4 ราย เมื่อ 12 เม.ย.58 พื้นที่ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส, คดีลอบวางระเบิดและยิงเจ้าหน้าที่กรมทหารพรานที่ 11 เสียชีวิต 6 ราย เมื่อ 27 เม.ย.60 พื้นที่ต.ผดุงมาตร  อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เป็นต้น

จากผลการพิสูจน์ดังกล่าว ทำให้สามารถสรุปได้ว่าเป็นการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง ปัจจุบันได้ออกหมายจับแล้ว จำนวน 8 คน อยู่ในระหว่างติดตามจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบและจะรายงานให้ทราบต่อไป

ส่วนคดีคนร้ายยิงประชาชนเสียชีวิต 5 ราย เมื่อ 11 มิ.ย.61 ในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา จากการตรวจสอบพฤติกรรมผู้เสียชีวิต เบื้องต้นไม่พบประวัติคดีความมั่นคง โดย 2 ใน 5 คนที่เสียชีวิต เคยถูกจับกุมคดียาเสพติดเมื่อปี 2557, 2559 โดยผู้นำท้องที่และญาติให้ข้อมูลว่า กลุ่มผู้เสียชีวิตได้ใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นแหล่งมั่วสุมในการเสพยาบ้าและดื่มน้ำกระท่อมเป็นประจำ

จากการตรวจสอบวัตถุพยานที่เก็บได้คือ ปลอกกระสุนขนาด 5.56 มม. พบว่าใช้ยิงมาจากปืน HK 33 ตรวจพบการก่อคดีสำคัญ 9 คดี ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 1 ราย, บาดเจ็บ 12 ราย, เสียชีวิต 13 ราย โดยมีคดีสำคัญ เช่น คดียิง พ.ต.ท. อดินันท์  อิสมาแอ รอง ผกก.สภ.กรงปินัง เสียชีวิต เมื่อ 10 ก.ค.2557 คดีโจมตีฐานชุดคุ้มครองต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อ 31 ก.ค. 2558 และคดียิงจุดตรวจ 3 ฝ่าย อำเภอกรงปินัง เมื่อ 3 เม.ย.2560 เป็นต้น

“ทำให้สามารถสรุปได้ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง สำหรับสาเหตุน่าจะเหตุขัดแย้งส่วนตัวหรือยาเสพติด” พันเอกปราโมทย์ กล่าว

พันเอกปราโมทย์  ยังกล่าวอีกว่า จากรายงานผลคืบหน้าทั้ง 2 คดี สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐตามที่ได้พยายามบิดเบือนโดยกลุ่มผู้ไม่หวังดี  โดยมีผลการพิสูจน์หลักฐานดังที่ปรากฏว่าเคยใช้ในการก่อเหตุคดีความมั่นคง ที่สร้างความสูญเสียทั้งกับเจ้าหน้าที่รัฐและพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะต้องสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอย่างรอบด้านเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงของทั้ง 2 คดี พร้อมกับเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ที่ก่อเหตุ มาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >> 

รัวเอ็ม 16 ยิงร่างพรุน 4 ศพ ครอบครัวคนร่อนทองสุคิริน จ.นราธิวาส

คนร้ายยิงถล่มชาวยะลากลางดึก เสียชีวิต 5 ราย