หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) เดินหน้ากวาดล้างพรานป่า ในพื้นที่กาญจนบุรีต่อเนื่อง ล่าสุดยึดซากสัตว์ป่าและอุปกรณ์กว่า 19 รายการ สารภาพมีกลุ่มพรานป่าเข้ามาล่าสัตว์จำนวนมาก
วันนี้ (16ต.ค.61) นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ประจำหน่วยพญาเสือ ได้รับการสั่งการจากนายพนัชกร โพธิบัณฑิต รักษาการหัวหน้าหน่วยฯ พญาเสือ ให้เข้าร่วมสนับสนุนตรวจสอบคดีตรวจยึดซากสัตว์ป่า กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ร่วมกันจับกุม นายหวาน อายุ 77 ปี พร้อมตรวจยึดซากสัตว์ป่าจากแพพักบริเวณบ้านน้ำเอ๋อ ท้องที่ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พบซากสัตว์ป่าของกลางหลายรายการประกอบด้วย หนังวัวแดงรมควัน เขาวัวแดง ซากเนื้อกวางตากแห้ง ซากหมูป่าตากแห้ง ขนเม่นใหญ่ อุปกรณ์แร้วดักสัตว์ กล้อง RED DOT วิทยุสื่อสาร รวมของกลางทั้งสิ้น 19 รายการ
สำหรับการดำเนินการดังกล่าว เป็นการตรวจกวาดล้างกลุ่มพรานที่อาศัยช่วงเทศกาลเข้าไปล่าสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์ โดยเฉพาะเส้นทางน้ำ ในอ่างเก็บน้ำ
จากการสอบสวน นายหวาน ให้การว่า ตนเป็นคนสุรินทร์ มาอาศัยอยู่กาญจนบุรี เป็นเวลา 34 ปี แล้ว โดยมีแพพัก (อยู่อาศัย) และเลี้ยงควายอยู่บริเวณน้ำเอ๋อ ท้ายเขื่อน ศรีนครินทร์ ของกลางทั้งหมดตนรับมาอีกที ไม่ได้ไปล่าเอง ซื้อมาบ้างสะสมมาบ้างจากพรรคพวก เพื่อส่งไปฝากญาติทางอีสาน และไว้กินในบางส่วน และซากวัวแดง ได้รับมาจากทีมงาน ชื่อ นายสิงห์ กับนายครรชิต (กระเหรี่ยง) ซึ่งนายสิงห์ หรือนายสุรชาติ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จับกุมในแพใกล้เคียงกันพร้อมซากสัตว์ป่าของกลาง ไปเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 61 ที่ผ่านมา โดยตนทราบว่าทั้งสองได้เข้าไปล่าสัตว์ป่า และเอาหนังวัวแดงและเนื้อวัวแดงมาฝากตน
โดยพฤติกรรมของชายที่ถูกจับ เป็นเจ้าถิ่นอยู่บริเวณดังกล่าว และเลี้ยงควายในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งและอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ในกลุ่มแพดังกล่าว เป็นกลุ่มที่เข้าไปล่าสัตว์ และนำส่งขาย บางส่วนไว้กิน
จากงานการข่าวพบว่านายสุรชาติ เป็นพรานเป้าหมาย ที่เกี่ยวข้องพัวพัน กับการเข้าไปล่าสัตว์ทั้งใน อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง รวมทั้งทำไม้ และอาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย
นอกจากนี้ นายหวาน ให้การว่าเพิ่มเติมอีกว่า ในพื้นที่ดังกล่าวบางช่วงมีพรานหรือกลุ่มพรานจากข้างนอกเข้าไปจำนวนมาก แต่พูดไม่ได้เพราะแถวนั้นอยู่กันด้วยการไม่ยุ่งเกี่ยวกัน เพราะมันเป็นเมืองเถื่อน มีทุกอย่างแต่สำหรับพรานแล้วในกลุ่มที่แพพักอยู่ใกล้กันถ้ามีคนเข้าไปได้ของ ก็จะนำมาฝากเหมือนว่าเป็นค่าปิดปาก ในทีมงานเดียวกัน เหมือนที่ได้ซากหนังวัวแดง และซากสัตว์ป่าอื่นๆ
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้รวบรวมพยานหลักฐานและนำตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านแม่แฉลบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากข้อมูลดังกล่าว จะได้ร่วมวางแผนกับ จนท.ชุด อช.เขื่อนศรีนครินทร์ ขสป.ห้วยขาแข้ง ในการเข้าตรวจค้น จับกุมกลุ่มพรานดังกล่าวต่อไป
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช