‘ดอกมุราคามิ’ เทรนด์แฟชั่นมาแรงผลงานศาสดาแห่งป๊อปอาร์ต

“มุราคามิ” คือชื่อของดอกไม้หลากสี เทรนด์แฟชั่นที่ฮิตในย่านสยามเป็นเครื่องประดับติดเสื้อ-กระเป๋าเป็นที่สะดุดตา และเมื่อศิลปินโมบายล์ BNK48 นำเข็มกลัดดอกไม้มาเป็นเครื่องประดับยิ่งทำให้เกิดกระแสความต้องการในกลุ่มแฟนคลับ จึงมีการแผ่ขยายไปยังคนกลุ่มอื่นๆ ตามไปด้วย

“ดอกมุราคามิ” เป็นผลงานการออกแบบของทาคาชิ มุราคามิ (Takashi Murakami) ศิลปินแนวป๊อปอาร์ตชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าเขาตั้งชื่อดอกไม้ตามนามสกุลของเขา และดอกมุราคามิสีรุ้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนอนิเมะ ที่มีสีสันสดใสและสนุกสนาน

ขอบคุณภาพจาก IG takashipom

เพราะ “ดอกมุราคามิ” กำลังเป็นกระแสนิยมที่ใครหลายคนอยากเป็นเจ้าของ เมื่อความต้องการมาก การจัดหาสินค้าไม่เพียงพอ ทำให้ดอกมุราคามิขาดตลาด มูลค่าของมันจึงเพิ่มขึ้น ราคาที่ขายกันในญี่ปุ่นอยู่ที่ 1940 เยน หรือประมาณ 650 บาท ขณะที่บ้านเราขายกันตั้งแต่หลักร้อยถึงไปจนถึง 1,800 เลยทีเดียว

เมื่อ“ดอกมุราคามิ” เป็นที่ต้องการของตลาด และขายได้ราคาดี แน่นอนว่าต้องของปลอมออกมาขายปะบนในราคาเท่าของจริง เฟซบุ๊ก Supreme Blog Store ได้โพสต์ 4 วิธีสังเกต “ดอกมุราคามิ” เริ่มจาก

1. มุราคามิ มีหลายล็อตมากมาย แต่สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนคือ เนื้อผ้าที่ใช้เป็นผ้าเนื้อแข็ง มีน้ำหนัก เส้นกลีบชัดเจน

2. ตะเข็บเข็มกลัดมุราคามิจะใช้วิธีการเย็บเดี่ยว หรือ จักรหัวเดียว ตะเข็บตรงเข็มกลัดจึงมีเพียงแถวเดียวและตรงป้าย ของแท้จะไม่มีสี แต่ของปลอมจะมีสีขาวขุ่น

3. ดวงตาของดอกมุราคามิ ของแท้จะมีความตั้งใจให้ตาขาวเล็กไม่เท่ากัน ส่วนของปลอมตาจะเท่า มีจุดแตกในตาขาว รูปทรงไม่ได้รูปสีอ่อน ขนผ้าไม่ละเอียด

4. วิธีการเย็บเข็มกลัดจะใช้การเย็บแบบจักรหัวเดียว มีความแน่นมาก ส่วนของปลอมจะหลวมๆ เหมือนถูกใช้งานมาแล้ว เส้นด้ายจะหนากว่า

ไม่ชัดเจนว่าดอกมุราคามิเข้ามาในประเทศไทยเพื่อใด แต่ที่ชัดเจนคือเจ้าดอกมุราคามิกลายเป็นที่สนใจเมื่อเพจหมิง ขั้วโลก พาไปสำรวจราคาเครื่องแต่งกายของวัยรุ่นที่สยามสแควร์ และมีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งติดดอกมุราคามิ

สำหรับ ทาคาชิ มุราคามิ (Takashi Murakami) เกิดเมื่อปี 1962 รักในศิลปะมาตั้งแต่เด็ก เรียนจบศิลปะจากมหาวิทยาลัยโตเกียว  หลังจบการศึกษาแล้วงานแรกๆ ของเขาคือการใช้ศิลปะเสียดสีสังคม ครั้งนั้นได้รับผลตอบรับไม่มากนัก

ผลงานสร้างชื่อเสียงของทาคาชิ มุราคามิ คือผลงานที่มีการผสมผสานศิลปะเข้ากับวัฒนธรรมร่วมสมัย เช่น การ์ตูน ภาพยนตร์  จนได้รับฉายาว่า “ศาสดาแห่งป๊อปอาร์ต” และสัญลักษณ์รูปดอกไม้ กลายเป็นลายเซ็นของทาคาชิที่ไปปรากฎอยู่ตามสิ่งต่างๆ ทาคาชิได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังอย่าง Louis Vuitton ออกคอลเลคชั่นสินค้าพิเศษ ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ภาพวาดตกแต่งสถานที่ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย ว่ากันว่าความโดงดังของทาคาชิ ทำให้มีรายได้จากทั้งงานศิลปะของตัวเองตั้งแต่ 12 ล้านบาท ไปจนถึง 400 ล้านบาทต่อชิ้น และทาคาชิเป็นศิลปินคนเดียวที่ติดอันดับ 100 บุคคลทรงอิทธิพลของนิตยสารไทม์ ประจำปี 2008 ด้วย และเขาน่าจะมีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท

เฟซบุ๊กเพจ Supreme Blog Store, หมิง ขั้วโลก, sugimoto68.com