ปิดล้อมตรวจค้นชาวต่างชาติ ครั้งที่ 25 จับกุมผู้กระทำผิด 542 ราย หลบหนีเข้าเมือง, ใบอนุญาตหมดอายุและข้อหาอื่นๆ เผย มีตรวจค้นเป้าหมายไปแล้วกว่า 5,571 แห่ง จับกุมผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 4,773 คน
เมื่อเวลา 02.30 น. วันนี้ (16 พ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานจอดรถด้านหน้าทางเข้ารอยัลซิตี้อเวนิว หรือ อาร์ซีเอ พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร รองผบก.น.1 พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รองผบก.ทท.1 พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.มักกะสัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทท. บก.สปพ. บช.ปส. สตม. หน่วยรบพิเศษสยบไพรี หน่วยอรินทราช26 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.มักกะสัน ร่วมกันแถลงผลการเข้าปิดล้อม ตรวจค้นที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว สถานบันเทิงและโรงงานต่างๆ ตามยุทธการ X-RAY OUTLAW FOREIGNER ครั้งที่ 25 จำนวน 262 จุดทั่วประเทศ ของชาวต่างชาติที่กระทำผิด over stay และหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมาย สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งสิ้น 542 ราย แบ่งเป็น จับกุมข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยสิ้นสุดการอนุญาต จำนวน 48 ราย เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวน 262 ราย และจับกุมข้อหาอื่นๆจำนวน 232 ราย
พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวว่า การดำเนินการกวาดล้างจับกุมชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศผิดกฎหมาย รวมถึงใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งหลบซ่อน เพื่อเข้ามากระทำผิดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมีการดำเนินการมาแล้ว 39 ครั้ง มีตรวจค้นเป้าหมายไปแล้วกว่า 5,571 เป้าหมาย ทั่วประเทศ จับกุมผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 4,773 คน ซึ่งมีการผลักดันและขึ้นบัญชีดำถาวรไปแล้วกว่า 3,500 ราย ในวันนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันทั้งตำรวจภูธร ตำรวจนครบาล ตำรวจท่องเที่ยว 191 ตำรวจ ตม. โดยเน้นไปกลุ่มเป้าหมายแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มีการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าการดำเนินการมีผลการปฏิบัติอย่างดี ปัจจุบันปัญหาการจับกุมคนผิวสีหรือคนแอฟริกันแทบจะเป็นศูนย์ เพราะการเข้มงวดกวดขันของเจ้าหน้าที่
พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวอีกว่า การดำเนินการในครั้งนี้ เป็นการตรวจสอบแรงงานต่างด้าว ที่หลบหนีเข้าเมืองเป็นส่วนมาก ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ที่ถูกจับกุมจะน้อยลงเรื่อยๆ โดยหลังการจับกุมก็จะทำการผลักดันออกนอกประเทศ ซึ่งที่ผ่านมามีการลักลอบหลบหนีกลับเข้ามาอีก แต่จากนี้ไปจะมีการนำระบบไบโอเมทริกซ์มาใช้ เพื่อช่วยในการตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ป้องกันการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุลและลักลอบเข้ามาใหม่