SHARE

คัดลอกแล้ว

พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

รอง ผบ.ตร.ยืนยันสอบวินัย ‘อดีตผบก.เลย-ผกก.’ ไม่ปกป้อง ผิดจริงมีแต่ปลดกับไล่ออก ย้ำคดีหลักฐานแน่น เห็นใจลูกน้อง 192 รายเป็นเหยื่อ หลังถูก พนักงานสอบสวน บช.ภ.4 แจ้งดำเนินคดี กรณีทุจริตเงินโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ ภ.จว.เลย มูลค่า 229 ล้านบาท

เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 20 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีทุจริตโครงการรวมหนี้และบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย โดยมีผู้เสียหายเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.จว.เลย ทั้งหมด 192 นาย มูลค่าความเสียหาย 229 ล้านบาท ซึ่งมีนายตำรวจระดับผู้บังคับการและผู้กำกับการในขณะนั้นถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องว่า ล่าสุดได้ลงนามคำสั่งให้พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย และพันตำรวจเอกเฉลิม ยอดปทุม ผู้กำกับการอำนวยการ ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันก่อเหตุ ให้ออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อความสะดวกในการสืบสวนทางคดีและทางวินัย พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยมี พล.ต.ต.พลศักดิ์ บรรจงศิริ รองจเรตำรวจ หลังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ดำเนินคดีอาญา และพล.ต.ต.สุทิพย์ได้เข้ารายงานตัวต้องคดีอาญาที่สำนักงานกำลังพลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงมีเวลาในการสอบครั้งแรก 60 วัน แต่สามารถขยายเวลาได้ในกรอบระยะเวลาไม่เกิน 270 วัน

ทั้งนี้ ผลการสอบสวนหากผิดจริงมีมติ ซึ่งโทษจะมีทั้งปลดออก หรือให้ออกจากราชการ แต่ถ้ามติลงความเห็นว่าไม่มีความผิด ผู้ถูกกล่าวสามารถร้องขอกลับเข้ารับราชการได้เหมือนเดิม  ส่วนคดีอาญาทางพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ก็ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ไม่มีการปกป้องกันแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด แต่ก็รับทราบข่าวว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนในการดำเนินคดีอาญาในข้อหาฉ้อโกงประชาชน

พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย

“ทั้งนี้ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนการเยียวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะมีเพียงการดูแลสิทธิตามสมควร ซึ่งผู้เสียหายจะต้องไปฟ้องแพ่งดำเนินคดีกันเอง แต่ก็ยอมรับว่าเห็นใจผู้ใต้บังคับบัญชา จึงได้สั่งการให้มีการสร้างรายได้และอาชีพที่เหมาะสมกับข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนเอาผิดทั้งทางอาญาและทางวินัยไปตามขั้นตอนของกฎหมาย รวมทั้งสั่งการให้ทุกกองบัญชาการตำรวจทั่วประเทศ ตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้เกิดกรณีลักษณะนี้ขึ้นอีก” รองผบ.ตร.กล่าว

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเติม>>>

จ่อฟ้อง! อดีตผู้การฯ เลย โกงเงิน 229 ล้าน ขอจ่ายคืนวันละ 30 ล้าน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า