ตร. เร่งตามล่าโจรใจบาป ลักตู้เซฟรับริจาควัดดังเมืองสุพรรณ

สภ.อู่ทองระดมกำลังเร่งติดตามตัวโจรใจบาป หลังก่อเหตุลักตู้เซฟวัดยางยี่แส

วันที่ 5 ก.ย. 61 ร.ต.ท.ศุภฤกษ์ เสียงเจริญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.อู่ทอง  จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งจากพระอธิการสมลักษณ์ติกขะปัญโญ เจ้าอาวาสวัดยางยี่แส หมู่ 4 ต.กระจัน  ว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยตู้เซฟของวัดไป ฝ่ายสืบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อม เมื่อเจ้าหน้าที่ไปพบพระอธิการสมลักษณ์ติกขะปัญโญ  เจ้าอาวาสวัดยางยี่แส พร้อมพระลูกวัดยืนรออยู่ พร้อมนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ภายในมณฑปซึ่งประดิษฐานพระครูวินยานุโยค (หลวงพ่อสมบุญเขมภิรโตรักน้อย) อดีตเจ้าคณะอำเภอ และอดีตเจ้าอาวาสวัดยางยี่แส ซึ่งเป็นที่ตั้งตู้เซฟ

มณฑปที่เกิดเหตุ

จากการตรวจจุดเกิดเหตุพบว่าตู้เซฟดังกล่าว ตั้งอยู่บริเวณมุมริมผนังข้างพระประธานและรูปปั้นพระครูวินยานุโยค (หลวงพ่อสมบุญเขมภิรโตรักน้อย) ที่บริเวณหน้าประตูด้านในพบสร้อยข้อมือสีทองตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นหน่วยสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในมณฑปและรอบบริเวณวัด พบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชายรูปร่างผอมสูงประมาณ 165-170 เซนติเมตร สวมหมวกปีกลายทหารปิดบังใบหน้าขี่ซาเล้งเข้ามาจอดที่หน้าโบสถ์ อีกทั้งยังพบว่าพบว่าคนร้ายเคยเข้ามาในวัดหลายครั้งโดยขี่จักรยานสองล้อเข้ามาและเมื่อวันก่อนที่วัดมีงานศพก็เห็นคนร้ายซึ่งมั่นใจว่าเป็นคนเดียวกันเข้ามาในงานด้วยจึงเชื่อว่าคนร้ายคงมาดูลาดเลาก่อนจะลงมือก่อเหตุดังกล่าว

จากการสอบถามนายจุฬาตรี ศิริทรัพย์ถาวร อายุ 56 ปี ผู้ที่พบตู้เซฟหายคนแรกเล่าว่าตนได้มาถือศีลปฏิบัติธรรมตั้งแต่วันเข้าพรรษา ก่อนเกิดเหตุหลังจากปฏิบัติธรรมเสร็จตนได้มาช่วยจัดสถานที่สักการะหลวงพ่อบริเวณด้านหน้า และหันไปเห็นประตูมณฑปเปิดอ้าอย่างผิดสังเกตจึงไปบอกเจ้าอาวาสมาดูพร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบก็พบว่าตู้เซฟถูกโจรขโมยไป

นายจุฬาตรี ศิริทรัพย์ถาวร ผู้ที่พบตู้เซฟหายคนแรก ชี้จุดที่ตั้งเซฟ

ทางด้านพระอธิการสมลักษณ์ติกขะปัญโญ  เจ้าอาวาสวัดยางยี่แสกล่าวว่า ทางวัดเคยถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักษณะแบบนี้หลายครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้คนร้ายได้ใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจล็อกตู้บริจาคแบบเหล็กธรรมดาขโมยเงินบริจาคไป ทางวัดจึงได้ซื้อตู้เซฟมาเปลี่ยน โดยตู้มีน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม มาตั้งแทนและทางวัดเพิ่งจะเปิดตู้นำเงินบริจาคออกไปเมื่อวัน 2 วันที่ผ่านมาโดยทางวัดจะเปิดตู้เซฟเดือนละครั้ง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

สร้อยข้อมือของคนร้ายที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ