ทวงหนี้พนันบอล ! ม.5-ม.6 ลวงแทงเจ็บทั้งคู่ – พวกแค้นตามถึงรพ.

เหตุการณ์เมื่อ 7พ.ย.60 รพ.อุดรธานี

ประเด็นคือ – นักเรียน ม.ปลาย ยกพวกล้อมห้องวิทยุกู้ชีพ รพ.อุดรธานี  แค้นถูกคู่อริลงเพื่อนไปแทง หลังติดหนี้พนัันบอล เคราะห์ดีตำรวจระงับเหตุได้ทัน

หลังเกิดเหตุนักเรียนนักเลง ยกพวกตามมาตีกันถึงในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเยาวชน ยกพวกล้อมห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ที่โรงพยาบาลอุดรธานี มีกลุ่มวัยรุ่นชายกว่า 10 คน ในเครื่องแบบนักเรียนมารวมตัวปิดห้องศูนย์วิทยุกู้ชีพ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี หลังจากมีนักเรียนชาย 3 คน คือนายเอและนายบี (นามสมมุติ) ถูกแทงได้รับบาดเจ็บ และ นายซี ถูกตีที่ศีรษะแตก ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลอุดรธานี

น.ส.แววตา ตันเทิดทิตย์ ประธานชุดจัดระเบียบสังคม จ.อุดรธานี  อดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล เปิดเผยว่า จากการร่วมสอบสวนกับทางตำรวจ ทราบว่า นายเอ นายบี นายซี เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน โดยนายบี และนายซี เรียนอยู่ชั้น ม.5ด้วยกัน ส่วนนายเอ เรียนอยู่ชั้น ม.6 ก่อนเกิดเหตุ นายบีไปบอกนายซีว่า  แค้นที่นายเอ มาทวงเงินที่เป็นหนี้พนันบอลออนไลน์ จำนวน 8,000 บาท ซึ่งยังไม่มีเงินจ่าย จนทำให้อับอายขายหน้า นายบี และนายซี จึงวางแผนลวงนายเอ ว่า จะจ่ายหนี้ให้ โดยนัดเจอกันที่อ่างเก็บน้ำบ้านจั่น

เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายบี และนายซี ได้พกมีดแหลมยืนรออยู่บนประตูระบายน้ำ พบนายเอ ขี่รถ จักรยานยนต์ มาพร้อมเพื่อนประมาณ 5 คน เมื่อไปถึงนายเอ เข้ามาได้ทวงเงินที่ติดค้างจึงโต้เถียงทะเลาะกัน นายบีได้ใช้มีดแทงชายโครงซ้ายนายเอได้รับบาดเจ็บ และได้ยื้อแย่งมีดกัน ส่วนนายบี พลาดท่าถูกแทงบาดเจ็บเช่นกัน ขณะที่เพื่อนของนายเอ รุมทำร้ายนายซีด้วย

จากนั้นทั้ง 3 คนเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลอุดรธานี แต่เพื่อนของนายเอได้โทรศัพท์เรียกเพื่อนตามมาที่โรงพยาบาล และ พยายามจะทำร้ายนายบีและนายซี ซึ่งพยาบาลหนีเข้าไปหลบในห้องศูนย์วิทยุหน่วยกู้ชีพ ของโรงพยาบาล จนกระทั่งตำรวจตามมาระงับเหตุได้ทัน

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผู้กำกับการสภ.เมืองอุดรธานี

ด้านพ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผู้กำกับการสภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้ปกครองของนักเรียนทั้ง 3 คน ได้มาพบที่โรงพัก พร้อมกับแจ้งว่า ได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว และกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม และขอไกล่เกลี่ยกันเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องดี แต่คดีดังกล่าวเป็นคดีอาญา ยอมความไม่ได้ เป็นการก่อเหตุในสถานที่ราชการ ตำรวจจะต้องดำเนินคดี เมื่อนักเรียนทั้ง 3 คน ออกจากโรงพยาบาลจะได้เรียกตัวมาสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป