Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สำนักงานใหญ่ของ INTERPOL ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส เป็นหน่วยงานเดียวเท่านั้นที่สามารถออกหมายแดง (Red Notice) ได้ สาขาของ INTERPOL ที่อยู่ในประเทศต่างๆ ไม่มีอำนาจในการออกหมายแดง เพียงแต่มีหน้าที่แจ้งเตือนและส่งข่าวสารให้กับตำรวจในประเทศและกับเครือข่าย INTERPOL ในประเทศอื่นเท่านั้น

ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ INTERPOL เองได้ระบุถึงวิธีการในการออกหมายแดง (Red Notice) เอาไว้ โดยมี 3 ขั้นตอน ได้แก่

1. ประเทศสมาชิกของ INTERPOL ที่ต้องการให้ออกหมายแดง ต้องส่งคำร้องให้ INTERPOL ผ่านสำนักงานที่อยู่ในประเทศตนเอง พร้อมทั้งส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกรณีนั้นๆ ให้ INTERPOL
2. สำนักเลขาธิการ (General Secretariat) ที่อยู่ที่สำนักงานใหญ่ของ INTERPOL ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส จะพิจารณาคำร้องนั้น และจะออกหมายแดงให้ถ้าพิจารณาแล้วว่าข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมานั้นเข้าหลักเกณฑ์ต่อการออกหมายแดง
3. ตำรวจทั่วโลกจะได้รับการแจ้งเตือน ว่าบุคคลดังกล่าวได้รับการติดหมายแดงแล้ว

นั่นแปลว่าข้อมูลในโลกออนไลน์ขณะนี้ ที่มีการนำเสนอต่อๆ กันว่า INTERPOL ของออสเตรเลียเป็นผู้ออกหมายแดง จึงเป็นข้อมูลที่ไม่ได้อิงอยู่กับข้อเท็จจริง เนื่องจาก INTERPOL ที่ออสเตรเลียไม่ได้มีอำนาจในการออกหมายแดงตั้งแต่ต้น

INTERPOL ที่ออสเตรเลียเพียงแต่ “แจ้งเตือน” ทางการไทยเท่านั้น ว่านายฮาคีมมีหมายแดงติดตัวอยู่ และกำลังจะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย

พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ “การออกหมาย” และ “การแจ้งเตือน” เป็นคนละเรื่องกัน สำนักงานใหญ่ของ INTERPOL เป็นผู้ “ออกหมายแดง” (issue Red Notice) กับนายฮาคีมตามคำเรียกร้องของทางการบาห์เรน ส่วน INTERPOL ที่ประเทศออสเตรเลียเพียงแต่ “แจ้งเตือน” (alert) ทางการไทยเท่านั้น ว่านายฮาคีมที่มีหมายแดงติดตัวอยู่กำลังจะเดินทางมาประเทศไทย

ที่มา https://www.interpol.int/INTERPOL-exper…/Notices/Red-Notices

 

 

ประเทศบาห์เรนเป็นผู้ส่งคำร้องไปยังตำรวจสากล (INTERPOL) ให้ออกหมายแดง (Red Notice) แจ้งเตือนประเทศสมาชิก ว่าทางการบาห์เรนต้องการตัวนายฮาคีม อัล-อาไรบี กลับไปดำเนินคดี ส่วนประเทศออสเตรเลียไม่ได้เป็นผู้แจ้ง INTERPOL ให้ออกหมายแดงดังกล่าว ผู้ที่ “แจ้งเตือน” ทางการไทยว่านายฮาคีม ซึ่งในขณะนั้นมีหมายแดงติดตัวแล้ว กำลังเดินทางเข้ามายังประเทศไทยคือหน่วย INTERPOL ที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย (Australian bureau of Interpol)

ประเด็นเกี่ยวกับนายฮาคีม อัล-อาไรบี กำลังกลายเป็นเรื่องที่ถูกถกเถียงอย่างร้อนแรงมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากที่นักฟุตบอลชาวบาห์เรนขึ้นศาลอาญาของประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ โดยได้คัดค้านคำฟ้องของสำนักงานอัยการ ที่ต้องการจะให้ตนเดินทางกลับประเทศบาห์เรน

หนึ่งในประเด็นที่มีการถกเถียงกันมากที่สุดก็คือ ใครเป็นผู้ส่งคำร้องไปยัง INTERPOL ให้ออกหมายแดง (Red Notice) แจ้งเตือนประเทศสมาชิกว่าทางการบาห์เรนต้องการตัวนายฮาคีมกลับไปดำเนินคดี โดยจากข้อเท็จจริงแล้ว ประเทศบาห์เรนเป็นผู้ส่งคำร้องขอไปยัง INTERPOL ว่าบาห์เรนต้องการนำตัวนายฮาคีมกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศ โดยสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานตรงกันว่า บาห์เรนเป็นผู้ส่งคำร้องไปยัง INTERPOL ให้ออกหมายแดงนายฮาคีม อีกทั้งนี่ยังถือเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วไปของ INTERPOL ด้วย ที่ว่าประเทศใดต้องการจะนำตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินคดี ประเทศนั้นจะเป็นผู้ร้องขอไปยัง INTERPOL เอง

ส่วนประเทศออสเตรเลียนั้นไม่ได้เป็นผู้ร้องไปยัง INTERPOL ให้ออกหมายแดงนายฮาคีม สิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งมีรายงานยืนยันแล้วคือ หน่วย INTERPOL ที่อยู่ที่ออสเตรเลีย (Australian bureau of Interpol) เป็นผู้ “แจ้งเตือน” มายังทางการไทย ก่อนที่นายฮาคีมจะเดินทางมาถึงประเทศไทย ว่านายฮาคีมซึ่งในขณะนั้นมีหมายแดงติดตัวแล้ว กำลังเดินทางเข้ามาในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นที่คาดการณ์กันว่าในช่วงเวลาที่มีการแจ้งเตือนทางการไทยนั้น มีเพียงการให้ข้อมูลว่านายฮาคีมมีหมายแดงติดตัว แต่ไม่ได้แจ้งให้ทราบถึงสถานะการเป็นผู้ลี้ภัยของนายฮาคีมแต่อย่างใด

ที่มาข้อมูลสำนักข่าวต่างประเทศ ที่ระบุว่าบาห์เรนเป็นผู้ร้องขอให้ INTERPOL ออกหมายแดง
https://www.theguardian.com/…/hakeem-al-araibi-interpol-red…

https://www.abc.net.au/…/australian-refugee-soccer…/10570428

https://www.smh.com.au/…/thailand-extends-detention-of-aust…

 

 

หมายแดง หรือ Red Notice ของ INTERPOL นั้น ความจริงแล้วไม่ใช่หมายจับ อีกทั้ง INTERPOL เองก็ไม่มีอำนาจบังคับให้ประเทศสมาชิกจับผู้ที่มีหมายแดงติดตัว ในกรณีของนายฮาคีม การตัดสินใจจับหรือไม่จับเป็นอำนาจของประเทศ 100% หากตัดสินใจไม่จับก็ไม่ผิดกฎของ INTERPOL แต่อย่างใด

ประเทศบาห์เรนได้ร้องขอให้ INTERPOL ออกหมายแดง (Red Notice) กับนายฮาคีม อัล-อาไรบี ว่าทางการบาห์เรนต้องการนำตัวเขากลับไปดำเนินคดีที่ประเทศ ต่อมาเมื่อนายฮาคีมเดินทางมายังประเทศไทยในวันที่ 27 พ.ย. ปีที่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ไทยจึงได้ควบคุมตัวนายฮาคีมเอาไว้ โดยระบุว่าต้องควบคุมตัวนายฮาคีมเอาไว้ เนื่องจากนายฮาคีมมีหมายแดงจาก INTERPOL ติดตัว

อย่างไรก็ตาม ตามกฎของ INTERPOL เอง ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าหมายแดงไม่ใช่หมายจับ (It is not an international arrest warrant) ฉะนั้นแล้วประเทศที่เจอผู้ที่มีหมายแดงติดตัวจะจับหรือไม่จับบุคคลผู้นั้นก็ได้ เนื่องจาก INTERPOL ไม่ได้มีอำนาจอะไรที่จะบังคับประเทศสมาชิกว่าต้องจับผู้ที่มีหมายแดง (INTERPOL cannot compel any member country to arrest an individual who is the subject of a Red Notice)

ฉะนั้นแล้ว การที่ทางการไทยตัดสินใจจับนายฮาคีมตั้งแต่ต้น จึงเป็นการตัดสินใจของทางการไทยเอง เนื่องจากตามพันธกรณีที่ประเทศไทยมีต่อ INTERPOL ไม่ได้บังคับให้ไทยต้องจับนายฮาคีม หากไทยตัดสินใจไม่จับนายฮาคีม ก็ไม่ถือว่าเป็นการทำผิดกฎหรือพันธกรณีที่มีต่อ INTERPOL แต่อย่างใด

อ้างอิง คำอธิบาย Red Notice ในหน้าเว็บไซต์ของ INTERPOL
https://www.interpol.int/INTERPOL-exper…/Notices/Red-Notices

https://www.youtube.com/watch?v=vzTBYKG0RnQ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า