ทำเเผน หนุ่มโหด ใช้ไม้กระหน่ำตีหัวป้าวัย 60 ชิงเงินไปเติมน้ำมันหาเมีย

รวบหนุ่มโหด ใช้ไม้กระหน่ำฟาดป้าวัย 60 ปี อ้าง ชิงทรัพย์เหยื่อเพื่อนำเงินไปเติมน้ำมัน หาภรรยาที่ จ.สระบุรี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ย. 61 ที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน รรท.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก. , พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี , พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี  , พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.สืบสวน ส.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงการจับกุม นายอนุสรณ์ สวัสดิ์ อายุ 35 ปี อยู่ที่ 42 หมู่ 9 ต.โนนปอแดง อ.ผาขาว จ.เลย

ตามหมายจับศาล จ.อุดรธานี ที่ จ 339/2561 ในข้อกล่าวหา “ชิงทรัพย์” พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ฮอนด้า MSX สีแดงดำ ทะเบียน 1กช 9518 เลย โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ท่อนไม้ยาวประมาณ 50 ซม. เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หมวก ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 17 พ.ย. 61 ร.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ภูชื่นบาน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์กู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี มีคนบาดเจ็บถูกทำร้ายและชิงทรัพย์ เข้ารักษาที่ห้องฉุกเฉิน จึงออกไปสอบสวน พบ นางเกสร สุขสบาย อายุ 60 ปี อยู่ที่ 77/2 หมู่ 5 บ้านดงอุดม ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี ถูกคนร้ายใช้ไม้ตีที่ศีรษะแตกเลือดอาบ

ผู้บาดเจ็บได้ให้การว่า ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากดูหมอลำที่หน้าห้างเเห่งหนึ่ง ถนนรอบเมืองอุดรธานี สังเกตเห็นคนร้ายขี่รถติดตาม จึงได้แวะเติมเงินโทรศัพท์ตู้หยอดเหรียญ ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ

ขณะกำลังเติมเงินได้มีคนร้ายเป็นชาย รูปร่างผอม ผิวดำ สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาว ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดและเดินมายืนด้านหลัง และมาชวนไปดูหมอลำ ตนรู้ได้ทันทีว่า ต้องเป็นคนไม่ดีแน่นอน เมื่อตนเติมเงินเสร็จได้ขึ้นนั่งรถ จยย.เพื่อกลับบ้าน

คนร้ายเดินมาด้านหลัง แล้วใช้ท่อนไม้ที่ซุกซ่อนไว้ในเสื้อคลุม ตีเข้าที่ศีรษะตนหลายครั้งจนตกจากรถ จากนั้นได้ชิงเอากระเป๋าสะพายสีน้ำตาล ข้างในมีเงิน 1,200 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องหลบหนีไป พลเมืองดีได้นำส่งโรงพยาบาล แพทย์ได้เย็บบาดแผล 3 เข็ม และให้กลับบ้านได้ ตำรวจไปตรวจภาพกล้องวงจรปิดหน้าร้านที่เกิดเหตุ เพื่อสืบสวนติดตามคนร้าย

ต่อมาวันที่ 20 พ.ย. 61 พ.ต.ท.อรรพล ยี่เกาะ สว.สืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้นำกำลังสืบสวนแกะรอยคนร้าย และเข้าจับกุมนายอนุสรณ์ คนร้ายที่ก่อเหตุได้ที่หอพักเเห่งหนึ่งในเขตนิคมอุตสาหกรรมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี สอบสวน นายอนุสรณ์ให้การรับสารภาพว่า เคยทำงานอยู่โรงงานกระเบื้องในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช ต่อมาได้เกิดอุบัติเหตุรถชน จึงหยุดทำงาน ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถ จยย.พาภรรยามาเยี่ยมญาติที่ จ.อุดรธานี แต่ภรรยาได้นั่งรถทัวร์กลับไปทำงานที่สระบุรี ส่วนนายอนุสรณ์อยู่ต่อ เพื่อจะหางานทำที่ จ.อุดรธานี

โดยก่อนเกิดเหตุ นายอนุสรณ์ขี่รถ จยย.ออกมาดื่มเหล้ากับเพื่อน ที่หมู่บ้านทรัพย์สมบูรณ์ ถ.รอบเมือง ต.หนองบัว เมื่อเมาแล้วรู้สึกคิดถึงภรรยา แต่ว่าไม่มีเงินเติมน้ำมัน จึงคิดจะก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ จึงขี่รถ จยย.ตระเวนหาเหยื่อ พบนางเกสรขี่รถ จยย. จึงได้ขี่รถติดตาม โดยได้หยิบท่อนไม้ที่ริมถนนซ่อนไว้ในเสื้อ เมื่อเหยื่อจอดรถ จยย. จึงทำทีเข้าไปชวนไปดูหมอลำ แต่นางเกสรปฏิเสธ ก่อนถูกนายอนุสรณ์ใช้ท่อนไม้ตึที่ศีรษะนางเกสร 3 ครั้ง แล้วชิงกระเป๋าเงินหลบหนี

โดยนายอนุสรณ์บอกว่า ตั้งใจตีให้นางเกสรสลบ แล้วชิงเอากระเป๋า ไม่ได้คิดตีให้ตาย หลังก่อเหตุได้นำเงินที่ชิงทรัพย์ไปเติมน้ำมันรถ จยย.ขี่กลับไปหาภรรยาที่ จ.สระบุรี โดยได้นำกระเป๋าของนางเกสรโยนทิ้งที่สะพานข้ามลำน้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

และเมื่อตำรวจได้เบาะแสคนร้าย จึงนำกำลังจับกุมนายอนุสรณ์ ขณะนอนอยู่ในห้องเช่าของภรรยา ส่วนตัวภรรยานายอนุสรณ์ออกไปทำงาน ก่อนควบคุมตัวมาที่ สภ.เมืองอุดรธานี

พ.ต.อ.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน รรท.ภ.ผบก.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า นายอนุสรณ์ ผู้ต้องหา เคยมีประวัติก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ จ.เลย ติดคุก 6 ปี พ้นโทษออกมาเมื่อเดือนตุลาคม 59 มาทำงานโรงงานกระเบื้องที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช จ.สระบุรี มีภรรยากำลังตั้งครรภ์ 6 เดือน และได้เกิดอุบัติเหตุรถชนบาดเจ็บ จึงหยุดพักรักษาตัว

หลังพาภรรยามาเยี่ยมญาติที่ จ.อุดรธานี และให้ภรรยากลับไปทำงาน นายอนุสรณ์บอกภรรยาว่าจะหางานทำที่ จ.อุดรธานี แล้วจะขี่รถตามกลับไป แต่นายอนุสรณ์ได้มาก่อเหตุชิงทรัพย์ ทำร้ายผู้หญิงสูงอายุอย่างโหดร้าย จึงสั่งการให้ตำรวจออกสืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ โดยใช้เวลา 3 วัน จึงจับกุมตัวได้

ต่อมาตำรวจได้ควบคุมตัวนายอนุสรณ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณหน้าร้านมินิมาร์ท บ้านดงอุดม ถ.อุดร-หนองไส จุดเกิดเหตุ โดยให้นางเกสร ผู้เสียหายซึ่งออกมาจากโรงพยาบาลอาการดีขึ้นแล้ว มาร่วมทำแผนด้วย โดยมีประชาชนที่ทราบข่าว มามุงดูหน้าคนร้ายจำนวนมาก

เมื่อพบหน้าคนร้าย นางเกสรได้ถามนายอนุสรณ์ว่า “ขอถามหน่อยว่า ตีป้าทำไม ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยมีเรื่องกัน ทำไมตีป้าถึงปางตาย เธอจะเสียใจมั๊ย ถ้าแม่เธอโดนตีบ้าง เธอจะคิดอย่างไร” นายอนุสรณ์ได้แต่ก้มหน้าไม่ได้ตอบ โดยใช้เวลาทำแผนประมาณ 20 นาที จากนั้นได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป