ทำแผน หนุ่มบุกเดี่ยว ควงปืนจี้ร้านสะดวกซื้อ

ประเด็นคือ  – หนุ่มวัย 34 ปี ควงปืน เข้าจี้ร้านสะดวกซื้อ กลางดึก สุดท้ายไปไม่รอด ถูกจับกุมได้พร้อมหลักฐานทั้งรถทั้งปืนที่ใช้ก่อเหตุ

วันที่ 6 ธ.ค. 60 ที่สถานีตำรวจภูธรสนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยงยุทธ จันตะบุตร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ฯลฯ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมพร้อมกับทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อในหมู่ที่ 4 ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา

สืบเนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 60 เวลาประมาณ 04:35 น. คนร้ายขับ จยย.มาจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อเหมือนลูกค้าตามปกติ จากนั้นคนร้ายได้สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ เดินเข้าไปในร้านก่อนชักอาวุธปืนที่พกมาในกระเป๋าเป้สีดำออกมาข่มขู่พนักงานภายในร้าน ให้นำเงินจากในลิ้นชักที่เก็บเงินให้คนร้ายแต่พนักงานไม่ยินยอม คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่หนึ่งนัด ก่อนคว้าเอาเงินสดจำนวน 3,500 บาทในลิ้นชัก เเล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรสนามชัยเขตจึงได้สืบสวนหาข่าวและติดตามจับกุมคนร้ายได้ที่บ้านเลขที่ 113 ม.11 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา โดยได้จับกุมนายนิรุตน์ นิวัตร อายุ 34 ปี พร้อมรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 4424 ฉะเชิงเทรา

เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาสอบสวนซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพ ว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 162 ม.3 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ หรือปืนปากกา ขนาด .22 หนึ่งกระบอก และอาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่ ยี่ห้อรีวอลเวอร์ ขนาด .357 มีทะเบียน หนึ่งกระบอก ซึ่งเป็นปืนที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุในการชิงทรัพย์

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่เมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน

สำหรับผู้ต้องหานั้นหลังจากการหลบหนีไปก็ได้พยายามทำลายหลักฐาน นำหมวกกันน็อกไปโยนทิ้งในป่าข้างถนนเส้นทางหลบหนี ส่วนกระเป๋า เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุนำไปเผาทำลายริมถนน ใน ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว ก่อนจะไปอาศัยอยู่ที่บ้านมารดา ใน ต.หัวโรง