นักโทษทนคิดถึงลูก-เมียไม่ไหว แหกเรือนจำ แต่ตามจับกลับมาได้

ประเด็นคือ – ผู้ต้องขัง เรือนจำยโสธร อยากกลับบ้าน คิดถึงลูกคิดถึงเมีย จึงอาศัยช่วงที่ผู้คุมเผลอ แอบกระโดดขึ้นรถขยะที่ไปเก็บขยะในเรือนจำหลบหนี สุดท้ายพ่อกับแม่กล่อมผู้ต้องขังส่งคืนให้เจ้าหน้าที่

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาติชาย ไชยรักษ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา นายแสวง หรือจ่อย หันตุรินทร์ อายุ 39 ปี ชาว ต.คำน้ำสร้าง อ.กุดชุม จ.ยโสธร ผู้ต้องขังชายในคดียาเสพติด หมายเลขแดงที่ 1731/2560 ถูกศาลจังหวัดยโสธรพิพากษาจำคุก 4 ปี 3 เดือน เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 60 หลบหนีออกจากเรือนจำจังหวัดยโสธร

“สืบเนื่องจากเมื่อวันเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 23 พ.ย. 60 มีรถเก็บขยะของเทศบาลเมืองยโสธรเข้ามาเก็บขยะในเรือนจำทุกวัน โดยจะมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ว่าภายในรถมีอุปกรณ์หลบหนี อุปกรณ์เหล็กแหลม และสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่เรือนจำที่ต้องขึ้นไปนั่งข้างคนขับรถขยะเข้าไปข้างในด้วย โดยทุกวันจะมีผู้ต้องขังจากแดนกลางที่รับผิดชอบทำหน้าที่ขนขยะขึ้นรถประมาณ 10 – 15 คน แล้วแต่จำนวนขยะที่มากหรือน้อยต่อวัน และมีผู้ดูแลทำความสะอาดบริเวณโรงเก็บขยะประมาณ 6 – 10 คน ต่อวัน ซึ่งวันเกิดเหตุมีขยะน้อย ทำให้ขนขยะเสร็จเร็ว

จากนั้นก็มีการตรวจนับนักโทษที่ขนขยะก็ครบตามจำนวน แล้วก็มีการตั้งแถวเพื่อเดินออกจากที่ดังกล่าว จากนั้นรถขนขยะก็ขับออกไป ซึ่งคาดว่านักโทษคนดังกล่าวได้ใช้เวลาแค่เสี้ยววินาทีปีนขึ้นไปบนรถก่อนที่รถขยะจะขับออกไป โดยปกตินักโทษคนดังกล่าวจะทำหน้าที่ขึ้นขยะเป็นประจำ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ระหว่างที่รถขยะขับออกไปนั้นจะมีด่านตรวจหลายด่านมาก พร้อมมีการใช้เหล็กแหลมเพื่อป้องกันผู้ต้องขังหลบหนี ต่อมาเวลา 13.00 น. ของวันที่เกิดเหตุ มีการเช็กยอดนักโทษ จึงทราบว่ามีนักโทษชื่อนายแสวงหรือจ่อย หลบหนีออกจากเรือนจำ

ต่อมา นายชาติชาย ไชยรักษ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดยโสธร จึงได้ตั้งศูนย์บัญชาการและแบ่งทีมออกติดตามไล่ล่าจับกุมจำนวน 5 ชุด และประสานกับตำรวจท้องที่ให้ระดมกำลังช่วยติดตาม จากนั้นก็มีอีกหนึ่งทีมติดตามไปยังบ้านพ่อแม่ผู้ต้องหา และหากพบให้ติดต่อกลับมาด่วน ต่อมาเวลา 21.00 น. ทางพ่อแม่ผู้ต้องหาได้ติดต่อมาว่าผู้ต้องขังได้กลับมาบ้านจริง จึงประสานนัดรับตัวผู้ต้องหาในช่วงเวลา 00.00 น. ที่ผ่านมา โดยมีพ่อแม่และลูกสาวคนเล็กของผู้ต้องขังมาส่งที่จุดนัดพบ” ผบ.เรือนจำจังหวัดยโสธร กล่าว

นายชาติชาย เปิดเผยด้วยว่า หลังจากรับตัวผู้ต้องขังมาแล้วได้สอบถามแล้วรับว่าผู้ต้องขังอยากกลับบ้าน คิดถึงลูกคิดถึงเมีย จึงอาศัยช่วงที่ผู้คุมเผลอแอบกระโดดขึ้นรถไปหลบซ่อนใต้กองขยะ และไปลงตรงจุดทิ้งขยะที่บ้านดงบัง ต.หนองคู อ.เมืองยโสธร จากนั้นได้เดินลัดเลาะตามป่าและไปพบเสื้อของชาวนาจึงได้หยิบขึ้นมาเปลี่ยน และรอให้ถึงช่วงเย็นเพื่อเดินตามข้างทางถนนวารีราชเดชมาถึงบ้านหนองไม้ตาย ต.ทุ่งนาโอก อ.เมืองยโสธร และได้ว่าจ้างให้ชาวบ้านขี่รถจักรยานยนต์บริเวณดังกล่าวไปส่งที่บ้านเกิด พอถึงบ้านเกิดก็บอกให้พ่อแม่นำเงินให้คนมาส่งแล้วนั่งกินข้าวกับพ่อแม่และลูกสาวคนเล็ก

“เจ้าหน้าที่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและรายงานผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับเหตุการณ์ผู้ต้องขังหลบหนี ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัย ทางเรือนจำได้ปรับการส่งวัสดุไม่ให้เข้าไปภายในเรือนจำ โดยจะใช้วิธีขนถ่ายเอา เพื่อป้องกันผู้ต้องขังซุกซ่อนตัวเหมือนเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ ทางเรือนจำได้มอบให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความเอาผิดกับผู้ต้องขังรายดังกล่าวที่หลบหนีด้วย” นายชาติชาย กล่าว