นายกฯ สั่งลุยรถตู้ภูเก็ตฟัน 3 พัน นทท.ออสซี่

นักท่องเที่ยวสาวออสเตรเลียลงบันทึกประจำวันถูกรถตู้เรียกค่าโดยสารจากสนามบินภูเก็ตมายังหาดกะตะ ระยะทาง 46.6 กม. สูงถึง 3,000 บาท  ล่าสุด ตร.ทราบตัวคนขับแล้ว ด้านนายกฯ สั่งเจ้าหน้าที่เข้มงวด หวั่นส่งผลกระทบภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย

จากกรณีที่เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ค.62 ได้มีแฟนเพจเฟซบุ๊ค เสียงประชาชน คนภูเก็ต Phuket People’s Voice ได้โพสต์ภาพนิ่งนักท่องเที่ยวสุภาพสตรี 2 คน ยืนถือเอกสารการลงบันทึกประจำวัน  ที่สภ.กะรน และข้อความระบุว่า “มีนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียมาแจ้งความที่ สภ.กะรน ครับว่า เมื่อคืนตนสองคนได้เรียกรถตู้จากสนามบินภูเก็ตและเข้าพักที่โรงแรมพีสฮิวกะตะ มาถึงโรงแรมคนขับเรียกเก็บเงินจากตน 3,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงมาก” ซึ่งส่วนตัวผมก็ทำงานบริการนักท่องเที่ยวขอเถอะครับ ไม่รวย คุณทำแบบนี้มีแต่จะทำลายการท่องเที่ยวภูเก็ต (รปภ.จดทะเบียนไว้ให้เรียบร้อยแต่ขอสงวนไว้)

https://youtube.com/watch?v=InJaECh2v2E

ด้าน พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เผยว่า  เมื่อเวลา 17.20 น วันที่ 17 กรกฎาคม 2562  ได้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ คือ Miss.Kate M Chipperfield อายุ 24 ปี สัญชาติออสเตรเลีย พร้อมเพื่อน ได้มาลงบันทึกประจำวันไว้ โดยระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมาได้เรียกรถยนต์ตู้คันหนึ่งจากสนามบินภูเก็ต เพื่อมาส่งที่โรงแรมพีชฮิวกะตะ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต (ระยะทาง 46.6 กม.) เมื่อมาถึงโรงแรม คนขับรถตู้ได้เรียกเก็บค่าโดยสารเป็นเงินจำนวน 3,000 บาท และต่อมาทางผู้แจ้งทราบว่า ราคาค่าโดยสารไม่น่าจะถึง 3,000 บาท  จึงได้มาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกับการให้บริการกับนักท่องเที่ยวและ ขอความร่วมอย่าเอาเปรียบ หวั่นส่งผลกระทบภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย

ล่าสุดวันนี้ (18 ก.ค.62) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตำรวจ ฝ่ายปกครองและ ตัวแทนจากขนส่งจังหวัด ได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวสาวชาวออสเตรเลียทั้งสองคน และนายภูมิพัฒน์ จันทร์แก้ว พนักงานขับรถตู้คู่กรณี (ผู้ถูกกล่าวหา) กับนางนฤมล จำปาทอง ผู้เชิญชวนนักท่องเที่ยวขึ้นรถตู้โดยสารที่ท่าอากาศยานภูเก็ต  เพื่อหาข้อเท็จจริงและหาข้อยุติเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผลจากการพูดคุยยังไม่สามารถข้อยุติได้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายให้ข้อมูลไม่ตรงกัน โดยนักท่องเที่ยวยืนยันว่าได้จ่ายค่าโดยสารไป 3,000 บาท

นายภูมิพัฒน์ จันทร์แก้ว พนักงานขับรถตู้ที่ถูกกล่าวหา

ด้านคนขับรถตู้รายดังกล่าว เล่าว่า ก่อนที่จะรับนักท่องเที่ยวหญิงชาวออสเตรเลียทั้ง 2 คน ไปส่งโรงแรมที่พัก ได้มีการอธิบายทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าโดยสารว่า หากจ่ายค่าโดยสารคนละ 200 บาท จะต้องรอให้นักท่องเที่ยวเต็มคันรถจึงจะออกไป แต่หากไม่รอก็จะต้องเช่าเหมาคัน โดยคิดราคา 2,000 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวบอกว่า ไม่รอ ขอเช่าเหมาคัน และตกลงราคากันที่ 2,000 บาท จากราคาเช่าเหมาปกติจะอยู่ที่ประมาณ 1,600 บาท ซึ่งตนก็ยอมรับว่าผิดที่คิดนักท่องเที่ยวเกินมา 400 บาท  แต่ยืนยันว่า เก็บเพียง 2,000 บาท ไม่ได้เก็บ 3,000 บาทตามที่ถูกกล่าวหา

นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

โดยทาง พ.ต.อ. ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.กะรน เผยว่า เนื่องจากขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังให้ปากคำไม่ตรงกัน ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันอีกรอบ เบื้องต้นทางนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เผยว่าจากการทำการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ จึงยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวใดๆ กับคนขับรถตู้ มีเพียงในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ตเปรียบเทียบปรับนางนฤมล จำปาทอง ความผิดตาม พ.ร.บ.การท่าฯ ฐานเข้าไปในท่าอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยได้โทษปรับสูงสุดไปแล้วเป็นเงิน 2,000 บาท