SHARE

คัดลอกแล้ว

ปปง. เผยศาลแพ่งสั่งคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายจากการถูกฉ้อโกง คดีถูกหลอกร่วมทุน I Makeover ซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ มูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท

วันนี้ (16 ต.ค.61) พลตำรวจตรี ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวว่า จากกรณี สำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายปฏิ หรือเจนกิจ แก้วรุณคำ กับพวก มีพฤติการณ์กระทำความผิด โดยได้โฆษณาชักชวนบุคคลทั่วไปให้สมัครสมาชิกโครงการที่ใช้ชื่อว่า I Makeover โดยอ้างว่าจะนำเงินของสมาชิกไปลงทุนในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ มีการกำหนดแผนการลงทุนและการจ่ายเงินปันผล หน่วยลงทุนหน่วยละ 10,000 บาท ระยะเวลาการลงทุน 15 สัปดาห์ มีเงินปันผลสัปดาห์ละ 10 เปอร์เซ็นต์ของหน่วยลงทุน เริ่มจ่ายปันผลสัปดาห์ที่ 2 ถึงสัปดาห์ที่ 13 รวม 12 ครั้ง และสัปดาห์ที่ 15 รับเงินทุนคืน นอกจากนี้ยังมีค่าตอบแทนให้กับสมาชิกที่แนะนำบุคคลอื่นมาสมัครเป็นสมาชิกโครงการ โดยผู้แนะนำจะได้รับเงินจำนวน 5 เปอร์เซ็นต์จากการลงทุนครั้งแรกของสมาชิกใหม่ และเงินจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์จากเงินปันผลที่ผู้สมัครใหม่ได้รับ ซึ่งมีผู้สนใจนำเงินมาร่วมลงทุนจำนวนมาก ต่อมานายปฏิฯ ได้หยุดจ่ายเงินปันผลให้แก่สมาชิก และหลบหนีไปนั้น

สำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า นายปฏิ กับพวก มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาหรือความผิดตามกฎหมาย  ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งต่อมาเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายปฏิ หรือเจนกิจ แก้วรุณคำ กับพวก ซึ่งเป็นเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวม 6 รายการ มูลค่า 6,833,036.75 บาท พร้อมดอกผล เพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และต่อมาศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้นำทรัพย์สินจำนวน 6 รายการ พร้อมดอกผลดังกล่าว ไปคืนหรือชดใช้ให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 37 ราย

 จากคำสั่งศาลดังกล่าว ปปง. จึงได้คืนเงินให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 37 ราย เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 6,855,675.18 บาท โดยจำแนกรูปแบบการคืนเงินดังนี้

  1. โอนเงินเข้าบัญชีของผู้เสียหาย จำนวน 31 ราย เป็นเงินรวม 5,213,525.69 บาท
  2. ออกเช็คสั่งจ่ายในนามผู้เสียหาย จำนวน 6 ราย เป็นเงินรวม 1,642,149.49 บาท

พลตำรวจตรี ปรีชา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขอแจ้งเตือนผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดว่า นอกจากจะถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแล้ว หากใครมีพฤติการณ์ในการรับหรือโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดก็อาจต้องถูกดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน   โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน นอกจากจะถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินแล้ว ตัวผู้กระทำความผิดเอง ผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ หรือนอมินี ที่รับโอนทรัพย์สินจากผู้กระทำความผิดทุกคนอาจต้องถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงินด้วย  ทั้งนี้ หากพบเห็นบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถโทรแจ้งสายด่วน ปปง. 1710

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า